เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ ผู้ก่อตั้ง www.eduzones.com เว็บไซต์การศึกษาที่มีสมาชิกมากที่สุดในประเทศ และ ผศ.ดร.รุจาภา แพ่งเกษร ผู้อำนวยการสำนักงานการตลาด มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมเสวนาและแถลงข่าวมหกรรมอุดมศึกษา Eduzones expo 2010 ซึ่งพันธมิตรด้านการศึกษาคือ Eduzones มหาวิทยาลัยรังสิต และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พร้อมสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศร่วมกันจัดขึ้นในวันที่ 13-14 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ชั้น 5 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับกิจกรรมเสวนาบนเวทีที่น่าสนใจ อาทิ เคล็ดลับเลือกคณะอย่างไรไม่ให้พลาด เรียนอะไรไม่ตกงาน และพบกับการเก็งคะแนนสูงสุด-ต่ำสุด ของแอดมิสชั่นส์ รวมทั้ง คณะ และสาขาดัง โดย ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ พิธีกร นักพูด นักเขียนด้านการศึกษา กับ อ.ศักดา ดีคำป้อ ผู้พัฒนาโปรแกรมประเมินสอบผ่าน Admission EZAD ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าแม่นยำที่สุดในประเทศ
นอกจากนั้นสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศกว่า 100 สถาบัน ซึ่งมีทั้งสถาบันของรัฐบาลและเอกชน ได้มาร่วมให้คำแนะนำพร้อมข้อมูลที่ทันสมัยสำหรับการศึกษาต่อ อีกทั้งยังมีครูแนะแนว รุ่นพี่นักศึกษาทุกคณะกว่า 300 คน จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ก็มาร่วมให้คำปรึกษา แนะแนว การเลือกคณะและอันดับให้กับน้อง ๆ พร้อมทั้งทดลองใช้โปรแกรมอัจฉริยะเลือกคณะ Admissions เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกคณะที่ชอบและใช่ ให้กับน้อง ๆ ได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งยังมีกิจกรรมและความสนุกสนานจากรุ่นพี่ดารานักร้องจากมหาวิทยาลัยอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดสดออนไลน์เสมือนงานจริงผ่านทางอินเตอร์เน็ตที่ www.eduzones.com อีกด้วย
“งานนี้เป็นนิทรรศการแนะแนวการศึกษาครบวงจรแห่งแรกในประเทศ ที่จัดเนื้อหาตรงกับความต้องการของนักเรียน ม.ปลาย ในเวลาที่นักเรียนที่ต้องการที่สุด คือช่วงใกล้ประกาศผลคะแนน Admissions และนักเรียนทั่วประเทศกว่า 200,000 แสนคน กำลังจะตัดสินใจในเลือกคณะมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาต่อ ที่พิเศษคือมีการจัดงานพร้อมกัน 2 ทาง คือ งานที่จะจัดขึ้นจริงและงานที่จัดผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยงานที่จะจัดผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจะมีการจำลองให้เหมือนกับงานที่จัดขึ้นจริงมากที่สุด เช่น การถ่ายทอดสดบรรยากาศและกิจกรรมที่มีอยู่ในงานจริง , การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการศึกษาต่อแบบ Real Time และการเผยแพร่ข้อมูลของผู้ที่มาร่วมออกบูธผ่านทางเว็บไซต์ จึงถือเป็นงานเดียวที่จะให้คำตอบนักเรียนได้ตรงมากที่สุด” ดร.วิริยะกล่าว
ในส่วนของคณะ/สาขาที่เรียนแล้วไม่ตกงาน ดร.วิริยะ วิเคราะห์ว่า สถาบันการศึกษาของเราขยายตัวอย่างไร้ทิศทาง ทำให้หลายสาขาจบออกมาแล้วตกงาน แต่จากกระแสโลกปัจจุบันและอนาคตการเรียนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพจะมีงานทำแน่นอน เพราะผู้คนจะมีอายุยืนยาวขึ้น คนสูงอายุจะมีศักยภาพทางการเงินและเอาใจใส่สุขภาพมากขึ้น การเรียนด้านนี้จึงมีงานรองรับหลายด้าน และที่น่าสนใจในขณะนี้ที่หลายสถาบันเปิดการเรียนการสอนก็คือสาขาที่เชื่อมโยงกันเช่นนิเทศศาสตร์ร่วมกับนิติศาสตร์ วิศวะกับบัญชี ก็จะทำให้หางานง่ายเช่นกัน ส่วนการเรียนด้านสายศิลป์ถ้าจะเรียนให้สำเร็จต้องเรียนให้เชี่ยวชาญ เช่นนิติศาสตร์ก็ต้องรู้จริงและควรมีความรู้ด้านภาษาเป็นทักษะ เพราะฉะนั้นการเรียนสาขาใด ๆ ก็ตามขอให้เรียนแบบรู้จริงก็จะหางานง่ายรายได้ดีอย่างแน่นอน
ด้าน ผศ.ดร.รุจาภา แพ่งเกษร วิเคราะห์ในประเด็นเดียวกันว่า เราต้องมองอนาคตข้างหน้า เพราะฉะนั้นการเรียนสาขาใดก็ตามต้องศึกษาข้อมูลแวดล้อมอื่น ๆ ประกอบ ที่พบในปัจจุบันคือการขยายตัวทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคลื่นอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นการเรียนเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่นวิศวะนาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีชีวภาพ รวมทั้งการเรียนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาด้านดิจิตอล ก็ถือได้ว่าเป็นสาขาที่ตลาดแรงงานต้องการ นอกจากนั้นการเรียนด้านการพัฒนาด้านจิตใจก็มีความน่าสนใจในยุคหน้าเช่นเดียวกัน เพราะสังคมเรากำลังต้องการคนที่มีคุณธรรม จริยธรรม สาขาที่จะตอบสนองได้ก็คือด้านวิทย์สุขภาพ หรือจิตวิทยา ซึ่งสาขาต่าง ๆ เหล่านี้ถือได้ว่าเป็นสาขาที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต