เริ่มคอนเสิร์ตด้วยการโชว์เพลงของ ตุ๊ก เอง 5 เพลงรวด ที่เจ้าตัวบอกว่ารู้สึกดีมากๆ เพราะไม่เคยร้องเพลงตัวเองบนเวทีใหญ่ๆ ได้มากขนาดนี้มานานแล้ว อาทิ เพียงแค่ใจเรารักกัน, แรกนัด, น้อยใจ, มุมหนึ่งในหัวใจ และ ขอจันทร์ ทำเอาผู้ชมในหอประชุมนั่งเคลิ้มไปตามๆ กัน และต่อด้วยช่วงของ การเปิดตัวผู้ชายทั้ง 5 คน ของตุ๊กที่แต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นคนในเครื่องแบบ เรียงแถวออกมาโชว์พลังเสียงพร้อมแต่งกายตามอาชีพของตัวเองมาแบบเต็มยศ เริ่มจาก ว่าน ที่มาในมาดยามหนุ่มของตึก แกรมมี่ ในเพลง “นายร้อยหน้าลิฟท์”, ป๊อป พี่วินมอเตอร์ไซด์ ที่มาพร้อมเสื้อกั๊กสีส้ม ในเพลง “มอเตอร์ไซต์รับจ้าง”, ปิงปอง ในชุดช่างซ่อมจิปาถะที่พร้อมจะซ่อมได้ทุกอย่างโดยเฉพาะหัวใจของสาวๆ ในเพลง “ซ่อมได้”, พลพล กับลุคของหนุ่มใหญ่ลูกน้ำเค็ม ในเพลง “ตังเก” และที่เรียกเสียงฮาสุดๆ กับ เสนาหอย ที่มาในชุดคลุมนักมวยสีน้ำเงินเข้มแถมทำเสียงหนีบขึ้นจมูกร้องเพลง “อ่อนซ้อม” เลียนเสียงเจ้าของเพลงตัวจริงอย่าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ เรียกว่าแค่ช่วงแรกของคอนเสิร์ตก็ทำเอาผู้ชมหัวเราะท้องแข็ง ไปตามๆ กัน
จากนั้นถึงซีนไฮไลท์ของเจ้าของคอนเสิร์ตกับเพลง “Bad Romance” ของ เลดี้ กาก้า ที่ซีนนี้ ตุ๊กขอทุ่มสุดตัวยอมให้ทีมงานแปลงโฉมเป็นเลดี้ กาก้า ใส่วิกผมยาวสีบรอนด์เงา กับชุดสีเงินปักเลื่อมระยิบระยับ และนั่งเก้าอี้พยาบาลออกมาร้องเพลงพร้อมกับแดนซ์เซอร์สาวที่เหมือนหลุดออกมาจากเอ็มวี อย่างไงอย่างงั้น เรียกว่าซีนนี้ เลดี้ กาก้า ก็เถอะ เจอ เลดี้ ตุ๊กก้า ดูบ้างเผลอๆ อาจจะถูกเบียดตกเวทีเลยทีเดียว ก่อนจะถึงคิวของหนุ่มๆ อีกครั้งที่ขอเลือกเพลงมาร้องให้ตุ๊ก อย่าง ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร-ปิงปอง, อยากได้ยินว่ารักกัน-พลพล, อารมณ์ดี-ว่าน, ปากไม่ตรงกับใจ-ป๊อป และ เล่นของสูง- เสนาหอย
มาถึงช่วงสุดท้ายของการทำคะแนน ทั้ง 5 คนจึงเตรียมเพลงมาร้องคู่กับตุ๊กเพื่อเรียกคะแนน กันแบบไม่มีใครยอมใคร เริ่มด้วย ปิงปอง-รักเธอนิรันดร์ ที่มาพร้อมกับมุขจีบแบบหวานติดเลี่ยนหน่อยๆ แต่กินใจไปนาน, ป๊อป-Perhaps Love ในสไตล์ความรักคิกขุแนวซีรี่ส์เกาหลีขวัญใจสาวๆ, พลพล-เติมฝัน กับมาดผู้ชายอบอุ่นแต่หวังจะมอมสาว(ใหญ่)อย่างตุ๊ก วิยะดา ที่บอกได้คำเดียวว่า “คิดผิดซะแล้ว”, ว่าน-จุดใต้ตำตอ มาในมาดหนุ่มมากเรื่องในการลงทุนจีบสาว, เสนาหอย-ทะลึ่ง ในลุคแร๊พโย่ออกมาวาดลีลาแร๊พหลายภาษา ที่เรียกว่าหายใจหายคอแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว ซีนนี้ก็เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้อย่างเช่นเคย ก่อนจะปิดคอนเสิร์ตด้วยเพลง “แฟนจ๋า” ที่ทุกคนออกมาร้องเพลงร่วมกันพร้อมชวนผู้ชม ลุกขึ้นเต้นปล่อยพลังก่อนกลับบ้าน พร้อมเก็บความสุขกลับบ้านกันไปเต็มที่ตามแบบฉบับของคอนเสิร์ต ภายใต้โลโก้ เอ-ไทม์ โชว์บิส