นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการปรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจ เพื่อรับมือกับยักษ์ใหญ่ไอทีจากต่างประเทศที่เข้าสู่ตลาดไอทีของไทยเพิ่มขึ้น ด้วยการเร่งร่วมมือกันพันธมิตรที่เป็นผู้นำในแต่ละตลาดพัฒนาสินค้าอินโนเวชั่นลงทำตลาดร่วมกัน เพื่อใช้จุดแข็งของกันและกันสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงว่า หลังจากที่ MFEC ร่วมมือกับบริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจทางด้านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระดับโลก ทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ Unified Computing System (UCS) ขณะนี้บริษัทฯ ได้ขยายความร่วมมือไปสู่ตลาดสถาบันการเงิน และราชการ ด้วยการร่วมมือกับบริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด บริษัทไทยแท้ผู้วิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ในระบบงานโอเปอเรชั่นของสถาบันการเงินการธนาคาร งานกฎหมาย การบริหารองค์กรภาครัฐ จัดจำหน่ายภายใต้เครือข่ายการตลาดและการบริการที่แข็งแกร่งของ MFEC เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ใช้จุดแข็งของกันและกันสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับสถานการณ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
"ความร่วมมือกับโมทีฟ เทคโนโลยี ถือเป็นพันธมิตรรายที่สอง หลังจากที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยครั้งนี้ ถือเป็นการผนึกกำลังกันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตลาดสถาบันการเงิน และราชการ ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยโมทีฟ เทคโนโลยี มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจัดจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ในขณะที่ MFEC มีทีมการตลาดและการให้บริการที่มีคุณภาพ การร่วมมือกันครั้งนี้เพื่อให้บริษัทคนไทยมีศักยภาพสามารถแข่งขันกับบริษัทไอทีข้ามชาติ ที่แบรนด์ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกได้ เพราะปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยและแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นทุกที เพราะความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่ต้นทุนสินค้าที่ถูกลง สามารถนำเทคโนโลยีของแต่ละฝ่ายมาต่อยอดได้ทันที ประการสำคัญการให้บริการที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในตลาดของ MFEC จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของ โมทีฟ เทคโนโลยี สามารถจัดจำหน่ายได้ง่ายขึ้นผ่านทางฐานลูกค้าเดิมของ MFEC ซึ่งจะทำให้ทั้งสองฝ่ายรับประโยชน์ร่วมกันแบบ win-win"
นายวรพจน์ อนุเอกจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่าหลังจากบริษัท ร่วมมือกับ MFEC ในครั้งนี้แล้ว เบื้องต้น คาดว่าเพียงแค่ฐานลูกค้าเดิมที่ MFEC มีอยู่จะส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างแน่นอนและกำไรขั้นต้นจะปรับดีขึ้นในทิศทางเดียวกัน ยิ่งขายได้มาก ต้นทุนก็จะยิ่งลดลง สามารถสร้างศักยภาพในการทำกำไรและลดต้นทุนในเวลาเดียวกันได้ หลังจากนั้นจะนำไปสู่การพัฒนาซอฟต์แวร์ร่วมกันในอนาคต เพื่อให้ต้นทุนการวิจัยและพัฒนาสินค้าลดลง เนื่องจากวัตถุประสงค์จริงๆ คือ ช่วยส่งเสริมให้ตลาดซอฟต์แวร์ในเมืองไทยแข็งแกร่งขึ้น เพราะถ้าบริษัทคนไทยไม่ร่วมมือกันปกป้องตลาดไว้ สุดท้ายคนไทยก็ต้องใช้ซอฟต์แวร์ของต่างชาติ แต่หากคนไทยร่วมมือกันตลาดซอฟต์แวร์ของไทยก็สามารถเติบโตแบบแข็งแรงได้
เขากล่าวอีกว่า หลังจากบริษัทฯ ร่วมมือกับ MFEC ในครั้งนี้แล้ว คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายในปีแรกให้ขยายตัวประมาณ 20% และในปีถัดไปเติบโตต่อเนื่อง 15-20% ต่อปี และจะพยายามรักษากำไรสุทธิให้ขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 20-30% ต่อปี โดยยอดขายปี 2552 ของบริษัทฯ อยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท
"สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือการเติบโต โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มแบงก์ ซึ่งปัจจุบันเราขายซอฟต์แวร์บริหารหนี้ โดยธุรกิจนี้เติบโตขึ้นทุกปี จึงต้องการระบบเพื่อไปบริหารจัดการตรงนี้ เราก็เพิ่มจากหนึ่งแบงก์เป็นสองแบงก์เป็นสามแบงก์ ส่วนปีนี้ก็จะได้แบงก์ที่สี่แล้ว ส่วนปลายปีถ้าร่วมมือกับ MFEC สำเร็จก็คาดว่าน่าจะมีแบงก์ที่ห้าที่หก เข้ามาใช้บริการเร็วขึ้น ผ่านฐานลูกค้าของ MFEC ในขณะเดียวกันต้นทุนหลายส่วนก็อาจลดลงจากอำนาจต่อรองของ MFEC กับฮาร์ดแวร์เวนเดอร์ต่างชาติที่เรายังต้องพึ่งพาอยู่ สิ่งเหล่านี้จะเห็นได้ชัดจากการร่วมมือกันในครั้งนี้" นายวรพจน์ กล่าว
ด้านนางสาวบุษกรณ์ ลีเจ้ยวะระ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และการตลาด MFEC กล่าวว่าการร่วมมือกับ บริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด ในครั้งนี้ คาดหวังว่าบริษัทฯ คงมีการเติบโตที่ต่อเนื่องและเร็วขึ้น เพราะ MFEC มีเครือข่ายที่ครอบคลุมตลาดรวมอยู่แล้ว ซึ่งการร่วมมือกับ โมทีฟ เทคโนโลยี จะทำให้ MFEC มีสินค้าทางเลือกในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้มากขึ้น และครบวงจร คุณภาพดีและราคาต่ำลงเมื่อเทียบกับต่างชาติ ส่วนสาเหตุที่เลือก โมทีฟ เทคโนโลยี เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เนื่องจากต้องการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความแข็งแรงไม่ว่าจะเป็นด้านตลาด ด้านProduct development และ engineering และ คุณภาพการบริการ ซึ่งจะทำให้MFEC มีความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ไม่แพ้ต่างชาติ
"หลังจากที่ได้ร่วมมือกับ โมทีฟ เหมือนเป็นการเพิ่ม Portfolio ของ Product หรือโซลูชั่น ให้มีความสมบูรณ์ขึ้น เพื่อตอบสนองตลาดที่บริษัทฯ โฟกัสอยู่ ส่วนสาเหตุที่เลือกโมทีฟ เป็นพันธมิตร เพราะเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์(Software Engineering) การพัฒนาสินค้า ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่เป็นสถาบันการเงินและราชการ ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ส่งผลดีกับทุกฝ่ายทั้งบริษัทไอทีไทย อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยและลูกค้าของเราเอง ช่วยกันเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและปกป้องตลาด ก่อนที่คู่แข่งเขาจะเข้ามากินมาร์เก็ตแชร์ไปทั้งหมดและแน่นอนเราต้องคาดหวังความสำเร็จอยู่แล้ว คือร่วมมือกันแล้วต้องดีกว่าเดิม 2-3 เท่า ถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ" นางสาวบุษกรณ์ กล่าว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณสุกฤษฎิ์ โมราลาย E-mail: [email protected],
คุณสังวาลย์ อุ่นเจริญ E-mail: [email protected]
เบอร์โทรติดต่อ 02-278-9278 ต่อ 2140
คุณจุฬารัตน์(ฟ้า) เจริญภักดี / [email protected]