กลุ่มเคจีไอ โชว์ผลสำเร็จเป็นที่ปรึกษา TDR ให้ฮั้วฟง

จันทร์ ๐๘ มีนาคม ๒๐๑๐ ๑๖:๔๗
กลุ่มเคจีไอ ประสบความสำเร็จในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายตราสาร TDR ของบริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) รวม 451 ล้านบาท โดยนักลงทุนในตลาดไต้หวันให้การตอบรับเป็นอย่างดี เผยเป็นการเพิ่มช่องทางการระดมทุนอีกช่องทางหนึ่ง และทางกลุ่มเคจีไอมีทีมงานที่มีความพร้อมในการเป็นที่ปรึกษา

นางเจสสิกา วู หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไต้หวัน) กล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนไต้หวัน ให้การตอบรับตราสาร TDR ซึ่งออกและเสนอขายโดยบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศ เป็นอย่างมากโดยมีบริษัทจดทะเบียนทั้งจากประเทศไทย ประเทศจีน และประเทศฮ่องกง นำ TDR เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไต้หวันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดไต้หวันถือเป็นตลาดหุ้นที่ไม่ได้พึ่งพิงกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศเป็นหลัก นักลงทุนหลักเป็นนักลงทุนในประเทศทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันโดยมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละประมาณ 60 ต่อ 40 ของมูลค่าการซื้อขาย ในขณะที่สัดส่วนนักลงทุนในประเทศต่อนักลงทุนต่างประเทศประมาณร้อยละ 70 ต่อ 30 ดังนั้น ตลาดหุ้นจึงมีการกระจายความเสี่ยงโดยมีนักลงทุนในประเทศเป็นผู้ลงทุนหลัก นอกจากนี้ การที่ตลาดไต้หวันใกล้ชิดกับตลาดประเทศจีน ทำให้ตลาดหุ้นไต้หวันเป็นศูนย์กลางของการลงทุนจากนักลงทุนจากจีนอีกด้วย ส่งผลให้มีมูลค่าการซื้อขายและสภาพคล่องสูงกว่าตลาดหุ้นในเอเชีย

นางเจสสิกา กล่าวต่อไปว่า ตราสาร TDR ของบริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ HFT ถือเป็นตราสาร TDR ที่ออกและเสนอขายโดยบริษัทจดทะเบียนไทยรายแรกในรอบ 6 ปี ที่ผ่านมา โดย TDR ล้นจองประมาณ 27 เท่า และประสบความสำเร็จในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไต้หวันเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่เข้าซื้อขายในวันแรกของ HFT สามารถยืนที่ราคาสูงสุด (ceiling) และสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามพื้นฐานของหุ้น และความต้องการส่วนเกินของนักลงทุนไต้หวัน

สำหรับกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ ถือเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่มีเครือข่ายทั่วเอเชีย โดยการออกตราสาร TDR ถือเป็นทางเลือกให้กับบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยได้เข้าไประดมทุนในประเทศไต้หวันได้เมื่อต้องการในภาวะที่ตลาดหุ้นในประเทศไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดประตูเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญของโลกอีกด้วย

นางเจสสิกา วู กล่าวต่อไปว่า กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ เป็นกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ไต้หวันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีทีมงานวาณิชธนกิจที่แข็งแกร่ง เรามีความพร้อมในการให้บริการอย่างครบวงจร ทั้งในด้านการออกตราสาร TDR และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งการหาพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งทางเคจีไอมีทีมงานที่มีประสบการณ์ และทำงานเป็นทีม โดยเรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญทั้งในไต้หวันและประเทศไทย ที่จะสามารถประสานงานและให้คำปรึกษากับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้สูงสุด ทั้งนี้ บริษัทที่จะออกตราสาร TDR ได้ จะต้องมีคุณสมบัติตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน และจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางประเทศไทยด้วย จึงต้องมีทีมงานที่ประสานงานกันได้อย่างใกล้ชิดทั้งก่อนออก ช่วงที่ออกและเสนอขาย และการให้คำแนะนำต่อเนื่องภายหลังนำ TDR เข้าจดทะเบียน

นายเฉิน ไท่ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความชำนาญในการผลิตยางนอก ยางใน สำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และยางรถขนส่งขนาดเล็กที่มีชื่อเสียง โดยบริษัทได้รับการสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีและเครือข่ายการตลาดจากบริษัทแม่ เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า DURO และ Q-UICK และมีความสัมพันธ์ที่ดี กับ Sumitomo Rubber ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า DUNLOP โดยได้ให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีกับบริษัท

ที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการออกและเสนอขาย TDR ที่ประเทศไต้หวัน โดยมีการออกและเสนอขาย TDR จำนวน 35,000,000 หน่วย จำนวนหุ้น TDR ที่จำหน่ายแต่ละหน่วย ถือเป็นหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 6 หุ้น รวมทั้งหมด 210,000,000 หุ้น ที่ราคา 12.5 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือคิดเป็นเงินไทยที่ 12.89 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 451 ล้านบาท เสนอขายแบบ PO โดยมีกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายตราสารดังกล่าว ทั้งนี้ นาย เฉิน ไท่ กล่าวว่า การออกตราสาร TDR เป็นการเพิ่มช่องทางในการระดมทุนให้กับบริษัท เนื่องจากภาวะการณ์ตลาดหลักทรัพย์ในแต่ละประเทศอาจมีความผันผวนในช่วงเวลาต่าง ๆ กัน ตามปัจจัยภายในประเทศ ดังนั้น การเพิ่มช่องทางการระดมทุนในต่างประเทศถือเป็นทางเลือกให้กับบริษัท ที่จะสามารถระดมทุนได้เวลาที่ต้องการ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติได้รู้จักบริษัท นอกจากนี้ ยังช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานนักลงทุน และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่สำคัญของโลกคือประเทศจีนได้ง่ายขึ้น

“ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ในประเทศมีความผันผวนจากภาวะการชลอตัวทางเศรษฐกิจและปัจจัยทางด้านการเมือง ทำให้ไม่เอื้อต่อการระดมทุน อีกทั้งเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน มีกฎเกณฑ์ที่สามารถให้บริษัทออกตราสารประเภท TDR และสามารถนำเงินกลับไปขยายธุรกิจในต่างประเทศได้ อีกทั้งมี P/E ที่สูงกว่าประเทศไทย ซึ่งเห็นว่าเป็นประโยชน์ โดยมีกลุ่มหลักทรัพย์ เคจีไอ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ซึ่งมีทีมงานทั้งในประเทศไทยและไต้หวันร่วมกันให้คำปรึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ การนำหุ้นของบริษัทไปเป็นหุ้นอ้างอิงในการออก TDR ทำให้หุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยตอบสนองในเชิงบวก อีกทั้งส่งผลให้หุ้นของบริษัทมีสภาพคล่องสูงขึ้นอีกด้วย” นาย เฉิน ไท่ กล่าว

นางสาวผกาวลี เจียรสวัสดิ์วัฒนา หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันมีบริษัทที่สนใจในการออกและเสนอขายตราสาร TDR มากขึ้น เนื่องจากเป็นการเพิ่มทางเลือกให้บริษัทจดทะเบียนในการระดมทุนอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งโดยทั่วไปบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยก็จะระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นหลัก อย่างไรก็ตามการออกตราสารประเภท TDR ก็ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้กับบริษัทในการระดมทุนในระยะเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังถือเป็นการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์โดยตรงได้ในอนาคตอีกด้วย และถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยสามารถขยายธุรกิจในต่างประเทศได้มากขึ้น นอกเหนือจากการให้บริการให้คำปรึกษาในการออกตราสาร TDR แล้ว ทางเคจีไอ ยังเน้นให้บริการด้านการซื้อขายกิจการ การหาพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเอ็มเอไอ อีกด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

ศศิธร อภิสิทธิ์นิรันดร์

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด โทร. 0 2658 8882 E-mail : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๑ 15 พฤศจิกายน 2567 ร่วมฉลองเทศกาลลอยกระทง กับ 5 โรงแรมหรูวิวริมทะเล ในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์
๑๖:๑๘ Blendata เปิดตัว Blendata Cloud บน Microsoft Azure Marketplace ยกระดับโซลูชัน Big Data ไทยสู่ระดับโลก
๑๖:๓๔ แอปเรียกรถ Maxim เปิดประสบการณ์บริการเรียกรถสุดพิเศษวันฮาโลวีน เซอร์ไพรส์จากคนขับที่คุณไม่ควรพลาด
๑๖:๑๔ เกษตรหนองหญ้าปล้อง จัดเวทีประชาคมและลงตรวจสอบพื้นที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ประจำปี 2567/68
๑๖:๔๗ เสริมความแกร่ง! ธุรกิจการบิน ม.ศรีปทุม เปิดเวทีบรรยายพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญ ติดปีกให้นักศึกษาสู่ตลาดอุตสาหกรรมการบิน
๑๖:๕๗ Wayzim ปรับโฉมการจัดการคลังสินค้าด้วยระบบ ASRS Stacker Crane สำหรับประสิทธิภาพสูงสุด
๑๖:๔๑ การเคหะแห่งชาติ ระดมกูรูด้านภัยพิบัติ ตั้งรับ ปรับตัวกับภัยพิบัติ
๑๖:๑๑ ก.ล.ต. - ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประสานความร่วมมือ ยกระดับการทำหน้าที่กำกับดูแลตลาดทุนร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
๑๖:๕๗ ไทย-ไต้หวันร่วมยกระดับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เสริมแกร่งกำลังคนทักษะสูง สู่ฮับการผลิต PCB แห่งอาเซียน
๑๕:๔๐ JAS คว้า 5 ดาว 2 ปีซ้อน จากการประเมิน CGR 2024