สปน. ดึง สกว. พัฒนาระบบติดตามและตรวจราชการส่วนภูมิภาค นำร่อง 12 จังหวัดทั่วทุกภาค

พฤหัส ๑๑ มีนาคม ๒๐๑๐ ๐๙:๑๕
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2553 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดย นายระพีพันธุ์ สริวัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดย ศ.ดร. สวัสดิ์ ตันตระรัตน์ ผู้อำนวยการ ได้ลงนามความร่วมมือเพื่อสนับสนุนโครงการ “การศึกษาความเหมาะสมเพื่อพัฒนาระบบงานกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค” ซึ่งมีนางสาวจิริกา นุตาลัย เป็นหัวหน้าโครงการ เพื่อหารูปแบบการพัฒนาระบบงานกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคที่เหมาะสม ให้เชื่อมโยงการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและมีการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับกระแสการปฏิรูประบบบริหารงานภาครัฐแนวใหม่ที่เน้นความคุ้มค่าและผลสัมฤทธิ์ ในการกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน

สืบเนื่องจากการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในปี 2552 ที่ให้อำนาจอนุมัติงบประมาณแก่รองนายกรัฐมนตรี โดยอ้างอิงผลการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค สำนักงานคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค (ส.กกภ.) สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรีจึงจำเป็นต้องพัฒนาระบบงานการกำกับและติดตามดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพและมีผลรายงานน่าเชื่อถือ แต่ที่ผ่านมา การประสาน ติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือในการกำกับติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคยังไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิผลด้วยข้อจำกัดหลายประการ อาทิ โครงสร้างองค์กรที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งขาดองค์ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับงานการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค โครงการนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว เพื่อสนับสนุนให้มีการประสาน ติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือในการกำกับติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เพื่อเปลี่ยนนโยบายรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม

โครงการนี้ใช้ระยะเวลา 10 เดือน ศึกษาในพื้นที่นำร่อง 12 จังหวัดประกอบด้วยจังหวัดอุทัยธานี ฉะเชิงเทรา ระยอง ราชบุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สงขลา เชียงใหม่ พิษณุโลก โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกคือ กระจายตัวตามภาคและผู้ตรวจ ขนาดของประชากร เป็นพื้นที่มีกิจกรรมการผลิตหลากหลาย มีสถานการณ์ปัญหา อยู่ในเขตยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศ โดยการศึกษารูปแบบและยุทธศาสตร์การกำกับติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ตลอดจนพัฒนากลไกและเครื่องมือในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ

ในการศึกษา คณะผู้วิจัยจะศึกษาบริบทและสาระสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เพื่อนำมาวิเคราะห์จัดทำและนำเสนอรูปแบบ กลไก เครื่องมือ และแนวทางการกำกับติดตามการปฏิบัติราชการ ระบบการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและภาคีที่เกี่ยวข้อง โดยอาจเลือกประเด็นหลักในพื้นที่ศึกษาที่สะท้อนให้เห็นแนวทางการบูรณาการ การเชื่อมโยง ต่อยอด สนับสนุนซึ่งกันและกันของหน้าที่ของหน่วยงาน (Function) นโยบายสำคัญของรัฐบาล (Agenda) และความต้องการของพื้นที่ (Area) จำนวน 1 — 2 เรื่องมาเป็นตัวแบบในการพัฒนาระบบกำกับดูแล ที่ก่อให้เกิดการอำนวยการ การเชื่อมโยงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพื่อให้การบริหารงานจังหวัด แบบบูรณาการสัมฤทธิ์ผล

เมื่อสิ้นสุดโครงการ คณะผู้วิจัยจะจัดทำคู่มือสำหรับกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะทำให้การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคเป็นไปอย่างมีระบบ และเป็นมาตรฐาน บุคลากรและเจ้าหน้าที่ประสานงานหรือสนับสนุนงานด้านการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคสามารถปฏิบัติงานได้บรรลุตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานขององค์ความรู้ทางวิชาการ และเกิดระบบการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

เกี่ยวกับ สกว.

- สกว. จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. กองทุนสนับสนุนการวิจัย พ.ศ. 2535

- สกว. เป็นหน่วยงานของรัฐภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ใช้ระเบียบราชการในการบริหารงาน จึงให้การสนับสนุนทุนวิจัยได้อย่างต่อเนื่องและคล่องตัว

- สกว.ไม่ทำวิจัยเอง แต่สนับสนุนงานวิจัยในรูปแบบต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการหลักคือ เพื่อการสร้างคน สร้างผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ และพัฒนาระบบวิจัยที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ปณิธาน “สร้างสรรค์ปัญญา เพื่อพัฒนาประเทศ”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ