อุตสาหกรรมเครื่องหนังไทยคาดปี 53 ส่งออกโต 10-15% เตรียมผนึกกำลังร่วมแสดงศักยภาพในงาน BIFF & BIL 2010

อังคาร ๑๖ มีนาคม ๒๐๑๐ ๑๗:๑๘
ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องหนังไทย คาดว่าปี 2553 มูลค่าการส่งออกหนังฟอก สินค้าเครื่องหนัง เครื่องใช้ในการเดินทาง และรองเท้าโดยรวมจะขยายตัว 10-15% เมื่อเทียบกับปี 2552 ที่มูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เชื่อด้วยศักยภาพที่มีอยู่ ผนวกกับการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็งและการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐจะช่วยขยายโอกาสและดันยอดส่งออกทั้งปี 2553 เติบโตตามเป้า ล่าสุดเตรียมขนทัพสินค้าและนวัตกรรมร่วมแสดงในงาน BIFF & BIL 2010 พร้อมเล็งเจาะตลาดใหม่ๆ ในอาเซียน

นางปรานี คุรุเวฬุกรณ์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนัง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย เปิดเผยว่า “ในปี 2552 ไทยส่งออกหนังฟอกมีมูลค่ารวมกว่า 447 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าปีนี้จะขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้ได้พัฒนาและปรับตัวให้สอดคล้องกับเทรนด์ของตลาดโลกเป็นอย่างดี โดยเฉพาะด้านคุณภาพและระบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันภาครัฐและเอกชนก็ได้พยายามร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Thailand’s Leather Goods: Italy of the East โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา รวมถึงส่งเสริมการสร้างตราสินค้าไทย เพื่อสร้างมูลค่าให้กับสินค้าไทย

นางเนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นายกสมาคมเครื่องหนังไทย กล่าวถึงสถานการณ์การส่งออกว่า “การส่งออกเครื่องหนังปี 2552 มีมูลค่ารวม 1,422 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 14.7% เมื่อเทียบกับปี 2551 ที่มียอดส่งออก 1,771 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สาเหตุหลัก คือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ซื้อในต่างประเทศระมัดระวังในการสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น สั่งซื้อสินค้าเป็นล็อตเล็กลง และไม่มีการกักตุนสินค้า จะสั่งซื้อใหม่ก็ต่อเมื่อแน่ใจว่าขายหมด อย่างไรก็ตาม ปีนี้ประเมินว่ายอดส่งออกจะโต 10-15% เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวและผู้ซื้อเริ่มสั่งซื้อสินค้าไปเติมสต็อคที่ใกล้จะหมด สำหรับตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (คิดเป็นสัดส่วน 14.8%) เดนมาร์ก (7.5%) จีน (6.19%) เวียดนาม (4.81) และที่เหลือเป็นญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศส ดูไบ รวมถึงประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในอาเซียนและตลาดใหม่อย่างอินเดีย ซึ่งทางสมาคมฯ กำลังเร่งเจาะตลาด เพื่อดันยอดส่งออกโดยรวมให้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมเครื่องหนังไทยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสมาคมเครื่องหนังอิตาลี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการตลาด เทคโนโลยีทางด้านการผลิต และการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งออก”

นางเนาวรัตน์ กล่าวอีกว่า “ตอนนี้จีนยังไม่ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของเรา เพราะเน้นคนละกลุ่มเป้าหมาย ของเราจะอยู่ในระดับ High Fashion มีดีไซน์เป็นของตัวเอง โดยผู้ซื้อมองว่าไทยเป็นฐานการผลิตเครื่องหนังที่มีดีไซน์ดีที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคและให้การยอมรับมายาวนาน พันธมิตรด้านการออกแบบและการตลาดของเราก็เข้มแข็งและมีศักยภาพสูงมาก ตรงนี้คือข้อได้เปรียบ แต่ด้วยการแข่งขันด้านราคาอย่างเข้มข้นของประเทศคู่แข่ง เราจึงต้องปรับตัวด้วยการสร้างมูลค่าให้สินค้ามีความโดดเด่นและแตกต่าง ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

“สำหรับไฮไลท์ของกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องหนังไทยในงาน BIFF & BIL ปีนี้ จะเน้นนำเสนออัตลักษณ์ไทย ซึ่งออกแบบโดยนักออกแบบไทยทั้งหมด โดยใช้ฐานทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยเข้าไปสร้างมูลค่าในทุกระดับ ตั้งแต่หัตถกรรมในครัวเรือน เอสเอ็มอี ไปจนถึงผู้ผลิตรายใหญ่ระดับประเทศ เชื่อว่าจะเป็นอีกเวทีหนึ่งที่ผู้ประกอบการจะได้แสดงศักยภาพ รวมทั้งโอกาสเจรจาการค้ากับพันธมิตรในอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม และผู้ซื้อจากทั่วโลก”

นายสกล ศิกษมัต นายกสมาคมรองเท้าไทย กล่าวว่า “อุตสาหกรรมรองเท้ามีมูลค่าส่งออกติดอันดับที่ 40 และคิดเป็น 55% ของอุตสาหกรรมเครื่องหนังไทย โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มรองเท้ากีฬา กลุ่มรองเท้าหนัง กลุ่มรองเท้าแตะ และอื่นๆ โดยมีการจ้างงานถึง 400,000 คน ซึ่งล้วนเป็นแรงงานมีฝีมือและประสบการณ์สูง เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอย่างจีน ลาว และอินโดนีเซีย ประกอบกับดีไซน์ที่โดดเด่นกว่า สินค้าของเราจึงได้รับการยอมรับเป็นที่ประจักษ์จากคู่ค้าและพันธมิตรทั้งในระบบ ODM และ OBM ซึ่งมียอดสั่งซื้อเพิ่มทุกปี โดยตลาดหลัก คือ สหรัฐอเมริกา และแถบยุโรป แม้ว่ายอดส่งออกปีที่แล้วลดลงไป 18% แต่เมื่อเทียบกับความต้องการทั่วโลกที่หดตัวถึง 30% ถือว่าผลกระทบไม่รุนแรงนัก”

“ที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการส่งออกอย่างมาก โดยเฉพาะคำแนะนำด้านการออกแบบให้ตรงกับเทรนด์ของตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ไทยยังขาดแคลนนักออกแบบรองเท้ามืออาชีพ ทางสมาคมฯ กำลังพยายามผลักดันให้มีการจัดตั้งสถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรเฉพาะด้านนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อยกระดับมาตรฐานวงการรองเท้าของไทยและรองรับเทรนด์ที่เปลี่ยนไปของตลาดโลก จากเดิมที่มุ่งความสนใจที่แบบสวย ราคาถูก ไปเป็นรองเท้าที่ทั้งสวย เหมาะกับสรีระ และดีต่อสุขภาพในระยะยาว ปัจจุบันไทยมีส่วนแบ่งในตลาดรองเท้าทั่วโลกประมาณ 2-5% แต่ถ้าเราพัฒนาด้านการออกแบบ บุคลากร การตลาด และความหลากหลายของสินค้าให้ดีขึ้น ผู้ประกอบการของเราจะไปได้อีกไกล”

“สำหรับงาน BILL&BIL ในครั้งนี้ คอนเซ็ปท์ Look East สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของเราที่จะเน้นไปที่ตลาดญี่ปุ่น เกาหลี และใต้หวัน เชื่อว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพราะผู้ซื้อกลุ่มนี้มีความเชื่อมั่นในศักยภาพผู้ประกอบการไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นอกจากนี้ เราจะเน้นนำเสนอสินค้าแบรนด์ของเราเองด้วยเพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ”

ในปีนี้จะมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหนัง เครื่องหนัง และรองเท้าร่วมแสดงสินค้าในงาน BIFF & BIL 2010 รวม 252 บูท นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะได้แสดงศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมหนังและเครื่องหนังไทย

งาน BIFF & BIL 2010 , ASEAN Integration Textiles — Apparel — Leather กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 4 เมษายน 2553 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 1 - 2 เมษายน สำหรับนักธุรกิจ (เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.) วันที่ 3 - 4 เมษายน สำหรับประชาชนทั่วไป (เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.biffandbil.com สำหรับบริการ Business Matching สามารถ ดาวน์โหลด File: Exhibitor Application Form และ Buyer Application Form จาก www.biffandbil.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

บริษัท เเบรนด์คอม คอนซัลเเทนส์ จำกัด

ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ งาน BIFF & BIL 2010 กรมส่งเสริมการส่งออก

ไพลิน บูรณะมิตรานนท์ / เสาวรินทร์ ทองทัศน์ / ปณิธาน ชุ่มเชื้อ

โทร 02-642-9620 (12 คู่สาย) แฟกซ์ 02-642-9688

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version