TTCL ยิ้มร่าคว้างานใหญ่ 4 พันล้านสร้างโรงงานเอทานอลที่ ’เวียดนาม’ รวดเดียว 2 โรง

จันทร์ ๒๒ มีนาคม ๒๐๑๐ ๑๖:๐๔
ประเดิมโครงการแรกกับปิโตรเวียดนาม ป้อนโรงกลั่นผลิตแก๊สโซฮอลล์

คาดโตต่อเนื่อง หลังคว้าแชมป์กำไรสูงสุดกลุ่มรับเหมาฯ 2 ปีซ้อน

โตโย-ไทย (TTCL) ประสบความสำเร็จคว้า 2งานใหญ่สร้างโรงงานเอทานอลของกลุ่ม ปิโตรเคมีประเทศเวียดนาม มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท พร้อมลุยต่างประเทศต่อ เมินผลกระทบสถานการมาบตาพุด

สุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กรรมการและรองประธานฝ่ายขาย บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัท TTCL ได้รับหนังสือแจ้งความจำนงเพื่อทำสัญญาก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลพร้อมกัน 2 โครงการ โดยโครงการแรกเป็นโรงงานผลิตเอทานอลของ “กลุ่มปิโตร เวียดนาม (Petro Vietnam)” ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทน้ำมันและปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และโครงการที่ 2 เป็นโรงงานผลิตเอทานอลของ กลุ่มทุนจากประเทศญี่ปุ่น โดยทั้ง 2 โครงการมีมูลค่างานโครงการละ 2,000 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ทำให้ TTCL มีปริมาณงานเพิ่มเป็นกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทสามารถเริ่มรับรู้รายได้ทันที่ในปีนี้ โดยโรงงานทั้ง 2 แห่งตั้งอยู่ที่เมืองบินพอก และเมืองดัคลัค ห่างจากกรุงโฮจิมินท์ ประมาณ 100 กิโลเมตรและ 250 กิโลเมตร ตามลำดับ และมีกำหนดเริ่มก่อสร้างภายในปี 2553 และจะแล้วเสร็จภายในปี 2555 อนึ่งทั้ง 2 โครงการนี้มีกำลังการผลิตเอทานอล เท่ากันคือ โรงงานละ 300,000 ลิตรต่อวัน โดยผลผลิตเอทานอลที่ได้จะนำไปใช้ในการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ภายในประเทศเวียดนาม

สาเหตุที่ TTCL ชนะการเสนองานทั้ง 2 โครงการนั้น เป็นเพราะ TTCL มีประสบการณ์ในการออกแบบและก่อสร้างโรงงานขนาดใหญ่ในต่างประเทศรวมถึงในประเทศเวียดนามมากว่า 13 ปี และยังมีบริษัท โตโย-เวียดนามเป็นบริษัทลูก ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ โตโย-ไทยดำเนินกลยุทธ์การรุกขยายงานในต่างประเทศ เพื่อสร้างผลประกอบการให้เติบโตยิ่งขึ้น เนื่องจากงานในต่างประเทศมีอัตรากำไรที่สูงกว่างานในประเทศ อีกทั้งบริษัทได้เปรียบในการแข่งขันจากการที่มีผลงานการก่อสร้างในต่างประเทศ ที่สร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของโครงการมากว่า 13 ปี และ TTCL ยังมีต้นทุนที่ถูกกว่าเนื่องจากอัตราค่าจ้างวิศวกรไทย น้อยกว่าค่าจ้างวิศวกรในประเทศต่างๆ นอกจากนี้การรับงานในต่างประเทศจะช่วยยกระดับ จากบริษัทก่อสร้างแบบครบวงจรหรือ (EPC) ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสู่การเป็นบริษัทรับเหมาแบบครบวงจรระดับนานาชาติ และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงจากสถานการณ์มาบตาพุด ซึ่งโครงการก่อสร้างของบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากดำเนินงานก่อสร้างแล้วเสร็จเกือบ 100% แล้ว

อนึ่ง TTCL เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีผลกำไรสุทธิสูงที่สุด 2 ปีซ้อน คือ 327 ล้านบาท (ปี 2552) แถมมีค่า PE เพียง 9.44เท่า (ถูกที่สุดในกลุ่มรับเหมาฯ) และเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่รายเดียวที่จ่ายเงินปันผลสูงสุดในปีนี้ คือ 35 สตางค์ต่อหุ้นหรือ 5.31% คิดเป็นการจ่ายปันผลอัตรา 50.33% ของกำไรสุทธิ โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 19.50 สตางค์ต่อหุ้น ในวันที่ 30 เมษายนนี้ นอกจากนี้ TTCL ยังมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ที่สูงที่สุดในกลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่ที่ 23.71% และ 78 สตางค์ ตามลำดับ ขณะที่บริษัทฯสามารถเพิ่มกำไรขั้นต้นได้ถึง 21.30% เป็น 883 ล้านบาทในปี 2552 จาก 728 ล้านบาทในปี 2551 และเพิ่มอัตราการทำกำไรสุทธิ หรือ เน็ตมาร์จิ้น ได้ถึง 14.3% เป็น 3.2% จาก 2.8% ในปี 2551 โดย สิ้นปี 2552 บริษัทมีรายได้จากค่าก่อสร้างและบริการวิศวกรรม 10,240 ล้านบาท และ มีสถานะทางการเงินทีแข็งแกร่งด้วยมูลค่าเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวกว่า 2,700 ล้านบาท โดยไม่มีภาระหนี้เงินกู้เลย นอกจากนี้ TTCL กำลังเสนองงานรับเหมาครบวงจร EPC อีกหลากหลายโครงการ มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 39,000 ล้านบาท อาทิ โรงงานปุ๋ยที่ประเทศเวียดนามและ โมร็อคโค ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถชนะงานประมูลได้พอสมควร

บริษัทโตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งเดียว ทีมีผลประกอบการที่เติบโตสูงและต่อเนื่องมาตลอดกว่า 25 ปี เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท โตโย เอนจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านรับเหมาวิศวกรรมโรงงานครบวงจรที่มีประสบการณ์กว่า 48 ปีจากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาทั่วไปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีทุนจดทะเบียนรวม 480 ล้านบาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว 480 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนวิศวกรทุกสาขามากที่สุดในประเทศไทยคือ 817 คนจากพนักงานทั้งหมด 1,563 คน บริษัทฯ มีประสบการณ์ในการรับเหมาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแล้วกว่า 160 โครงการ คิดเป็นมูลค่างานรวมกว่า 60,000 ล้านบาท มีฐานลูกค้าครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ เคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี ปิโตรเลียม ปุ๋ยเคมี โรงไฟฟ้า พลังงานทดแทน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทมหาชนและบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มปตท. กลุ่ม SCGหรือปูนซิเมนต์ไทย กลุ่มบมจ. วีนิไทย กลุ่มคาโอและกลุ่มอูเบะของญี่ปุ่น กลุ่มไบเออร์ของเยอรมัน และกลุ่มโซลเวย์ของเบลเยี่ยม เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทมีประสบการณ์รับงานในต่างประเทศมากว่า 13 ปี ซึ่งสร้างรายกว่า 6,000 ล้านบาท โดยกลุ่มตลาดหลักในต่างประเทศได้แก่ เวียดนาม (ซึ่งบริษัทมีบริษัทย่อยดำเนินงานอยู่) จีน กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มตะวันออกกลาง กลุ่มแอฟริกา และสหรัฐอเมริกา”

ข้อมูลประชาสัมพันธ์ กรุณาติดต่อ บจ.เพนเน็ตเทรท จำกัด 02-681-5305-7

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ