ในการจัดงาน “มหกรรมการศึกษานานาชาติ ครั้งที่ 24” โดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ หรือ เทียก้า (TIECA — Thai International Education Consultants Association) ระหว่างวันที่ 3 - 4 เมษายน 2553 ณ โรงแรมดุสิตธานี ทางสมาคมฯ ได้รับข้อมูลจากสถานทูตต่างๆ เกี่ยวกับความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมการศึกษา ในประเทศต่างๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย
นางแอน เรย์โนลส์ ที่ปรึกษาทูต ฝ่ายการศึกษา สำนักงานการศึกษาออสเตรเลียแห่งนานาชาติ (Australian Education International หรือ AEI) สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ TIECA และทางสถานทูตออสเตรเลีย ก็จะมีบูธเพื่อให้ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับประเทศออสเตรเลียในด้าน การศึกษา การดำเนินชีวิต รวมถึงเรื่องทุนต่างๆ ซึ่งสถานทูตออสเตรเลีย ในประเทศไทยทำงานอย่างใกล้ชิดกับ TIECA ในการจัดกิจกรรมและให้ข้อมูลต่างๆ รวมถึงการจัดอบรมในเชิงธุรกิจ เช่น การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า แนวโน้มตลาดแรงงานในประเทศและโอกาสในสายอาชีพแขนงต่างๆ รวมถึงการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขอวีซ่า นอกจากนี้ AEI ยังได้มีการให้ข้อมูลทางด้าน ข่าวสารทางอิเล็คทรอนิค (eNews) รวมถึงการจัดเจ้าหน้าเข้าร่วมประชุมกับ TIECA และ พบปะกับสมาชิกของสมาคมฯ เป็นครั้งคราว เพื่อปรึกษาหารือในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษาในประเทศออสเตรเลีย
สถานทูต “แคนาดา”
นายเกรกกอรี่ โกลด์ฮอว์ด ฑูตพาณิชย์ สถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทย กล่าวว่า ชาวแคนาดาให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนและพัฒนาระบบการศึกษาให้อยู่ในระดับสูง ด้วยมาตรฐานที่สูงในกลุ่มประเทศ G-7 แคนาดาใช้งบประมาณในการส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสูงที่สุด และเมื่อเทียบกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD นักเรียนชาวแคนาดาอยู่ในแถวหน้าของการสอบระดับนานาชาติในเรื่องการอ่าน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เช่น โปรแกรม OECD สำหรับการประเมินนักเรียนนานาชาติ ซื่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของสถาบันการศึกษาในประเทศแคนาดา ดังจะเห็นได้จากการที่คุณวุฒิทางการศึกษาต่างๆ อาทิ ปริญญา อนุปริญญา หรือประกาศนียบัตร จากแคนาดา เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเทียบเท่ากับจากอเมริกาและอังกฤษ ทำให้ผู้นำจากวงการธุรกิจ ผู้นำรัฐบาล และนักศึกษาจากทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ต่างก็สำเร็จการศึกษาจากแคนาดาหลายคน
สถานทูต “นิวซีแลนด์”
นายปีเตอร์ กินเนส ที่ปรึกษาเอกอัครราชทูตและรองหัวหน้าคณะผู้แทนฯ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ในเรื่องของความปลอดภัย นิวซีแลนด์ได้รับความไว้วางใจในระบบรักษาความปลอดภัย ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และเป็นที่ไว้วางใจในแวดวงการศึกษามาเป็นเวลายาวนาน นักเรียนที่เรียนต่อในนิวซีแลนด์จะได้รับประโยชน์จากการเรียนมากมาย เช่น ระบบการศึกษาที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ด้วยอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย และคณาจารย์ที่มีคุณภาพสูง รวมถึง ความสามารถในการนำ นวัตกรรมสื่อการสอนและเทคโนโลยีชั้นนำ มาประกอบการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ นักเรียนยังสามารถเลือกเรียนได้หลากหลายวิชาตามความสนใจและตามสายวิชาชีพที่ถนัด โดยที่จำนวนนักเรียนต่อห้องเรียนมักจะน้อย และที่สำคัญ คือ ระบบการศึกษาที่นี่ มักจะส่งเสริมให้นักเรียนคิดอย่างสร้างสรรค์ พร้อมด้วยแง่มุมและความคิดใหม่ๆ รวมถึงวุฒิการศึกษาของนิวซีแลนด์ยังสามารถใช้ในการสมัครเรียนต่อได้ทั่วโลก
สถานทูต “อังกฤษ”
นาย เพรด เอเว่นส์ ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการและการศึกษา บริติช เคานซิล ประเทศไทย สถานทูตอังกฤษ กล่าวว่า บริติช เคานซิล มั่นใจในคุณภาพและความเชี่ยวชาญของสมาชิกเทียก้าในการให้คำปรึกษาและบริการด้านการศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร แก่ผู้ปกครองและนักเรียน นักศึกษา นอกจากนั้น การที่เทียก้ามีการควบคุมคุณภาพการดำเนินงานของสมาชิก ก็สามารถรับประกันได้เช่นกันว่าบริการของสมาชิกเหล่านั้นมีคุณภาพ
สำหรับงานนิทรรศการศึกษานานาชาติ หรือ The 24th TIECA Expo ครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครองที่จะได้พบกับตัวแทนจากสถาบันการศึกษาโดยตรง เพื่อสอบถามรายละเอียดและปรึกษาเกี่ยวกับวิชาและสาขาที่ต้องการเรียน
สถานทูต “สหรัฐอเมริกา”
นาย ฟรานซิส เอม ปีเตอร์ ทูตพาณิชย์ สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า การศึกษาต่อในอเมริกานอกจากจะได้รับความรู้และวิทยาการแล้ว ยังได้ศึกษาการใช้ชีวิตร่วมกับวัฒนธรรมที่หลากหลายภายใต้สังคมเปิดที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ อันจะเป็นการพัฒนาแนวคิดในการอยู่ร่วมกันและถือเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับชีวิต วิทยาลัยชุมชนเป็นระบบการศึกษาภาครัฐ 2 ปี ซึ่งมีการเรียนการสอนวิชาพื้นฐานเหมือนกับ 2 ปีแรกของหลักสูตรปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา นักศึกษาสามารถโอนหน่วยกิต 2 ปีแรกเข้าไปเรียนในปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยในรัฐเดียวกันหรือในรัฐอื่นทั่วประเทศ โดยนักศึกษาสามารถจบปริญญาตรีด้วยวุฒิการศึกษาของมหาวิทยาลัยที่โอนย้ายเข้ามา
ประโยชน์ของการเรียนในวิทยาลัยชุมชน หรือ Community College ซึ่งเป็นวิทยาลัยภาครัฐที่มีราคาค่าเล่าเรียนต่ำ ประมาณ US$5,000 ถึง US$10,000 ต่อปี (ไม่รวมค่าที่พัก) อีกทั้งยังมีการแข่งขันในการสมัครเข้าเรียนน้อยกว่าของมหาวิทยาลัย ทำให้สามารถสมัครเข้าเรียนได้ง่าย ขนาดของนักศึกษาในแต่ละห้องเรียนก็เล็ก คือ มีนักศึกษาประมาณ 20 คนต่อห้องเท่านั้น จึงทำให้นักศึกษาได้รับการเอาใจใส่จากผู้สอนมากขึ้น ซึ่งวิทยาลัยชุมชนส่วนใหญ่มักจะอยู่ในเมืองเล็ก จึงทำให้ค่าครองชีพมักจะค่อนข้างต่ำเช่นกัน
สถานทูต “สวิสเซอร์แลนด์”
นายลูกัส กาสเซอร์ อัครราชทูต สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า หลักสูตรที่เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมที่สอนในประเทศสวิสเซอร์แลนด์เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศ ทัศนียภาพทางธรรมชาติอันงดงาม และระบบสาธารณูปโภคอันยอดเยี่ยม ทำให้ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งนี่คือที่มาของสุดยอดทักษะการบริหารธุรกิจโรงแรม และประเทศไทยอันมีสถานที่ท่องเที่ยวงดงาม ประชากรผู้มีอัธยาศัยเป็นมิตร และอาหารเลิศรส ที่ถือว่าอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน จึงไม่น่าแปลกใจ ที่นักศึกษาไทยจะชื่นชอบและยอมรับการศึกษาในแขนงนี้ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์
การศึกษาในสาขาการบริหารธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สามารถส่งเสริมให้นักศึกษาไทยที่สำเร็จการศึกษาในแขนงนี้ ได้รับข้อเสนอให้เข้าร่วมงานในสาขาวิชาชีพนี้จากทั่วโลก ซึ่งการเรียนการสอนในสาขาบริหารธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวของประเทศสวิสเซอร์แลนด์จะมีการผสมผสานระหว่างการเรียนภาคทฤษฏีในห้องเรียน กับการฝึกฝนในภาคปฏิบัติ ซึ่งถือเป็นการเรียนการสอนที่เข้มข้น จึงทำให้ระยะเวลาของหลักสูตรเหล่านี้ สั้นกว่าที่เปิดสอนในประเทศไทย นอกจากนี้ หลักสูตรด้านการบริหารธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ส่วนใหญ่ มักจะเปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย
ติดต่อ :
สมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)
โทรศัพท์: (66 2) 642-6114, (66 2) 642-4290,(66 2) 642- 6519
โทรสาร: (66 2) 642-6115
เว็บไซต์: www.tieca.com