จากกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาจำคุกนายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ และนายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัททุนธนชาต จำกัด(มหาชน) เป็นเวลา ๓ ปี ๔ เดือน นั้น นายบันเทิง ตันติวิท กล่าวว่า ตนเองให้ความเคารพในคำตัดสินของศาล ขณะเดียวกันจะใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ตามกฎหมาย โดยกรณีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี ๒๕๔๐ ในขณะที่ประเทศกำลังประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจทั้งระบบและมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ถูกปรับลดมูลค่าอย่างรวดเร็ว ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีนโยบายให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สามารถที่จะผ่อนปรนการบังคับขายหลักทรัพย์ของลูกค้ามาร์จิ้นได้แม้มูลค่าหลักประกันจะต่ำกว่าเกณฑ์ บงล.ธนชาติก็เช่นเดียวกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อื่นๆที่ได้ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวต่อลูกค้าทั่วไป รวมทั้งกรณีของนายเกริกชัย ซึ่งเป็นการกระทำตามนโยบายและแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายบันเทิง กล่าวต่ออีกว่าคำพิพากษาในคดีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อธนาคารธนชาต เพราะไม่ใช่คู่ความในคดีนี้ ในส่วนของทุนธนชาต ได้มีคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ในข้อหาและข้อเท็จจริงเรื่องเดียวกันนี้ ให้ยกฟ้องบริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน) และนายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ จึงไม่มีผลกระทบต่อบริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน)เช่นกัน
นายบันเทิงย้ำว่ากรณีนี้ไม่มีผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งผู้บริหารของทั้งสองคน และไม่มีผลกระทบต่อแผนการควบรวมกับธนาคารนครหลวงไทยที่ธนาคารธนชาตเพิ่งลงนามซื้อขายหุ้นกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน