นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า วารสารดิ เอเชี่ยน แบงเกอร์ ได้ประกาศผลการประกวดในโครงการ การให้บริการทางการเงินเพื่อลูกค้ารายย่อยยอดเยี่ยม ประจำปี 2553 (The Asian Banker Excellence in Retail Financial Services Awards 2010) ซึ่งสำหรับประเทศไทย ตัดสินให้ธนาคารกสิกรไทยได้รับรางวัล ธนาคารยอดเยี่ยมด้านธุรกิจลูกค้าบุคคลของประเทศไทย ประจำปี 2552 (Best Retail Bank in Thailand 2009)
วารสารดิ เอเชี่ยน แบงเกอร์ ระบุว่า ธนาคารกสิกรไทยมีผลการดำเนินงานด้านธุรกิจลูกค้าบุคคลในปี 2552 ที่มีความแข็งแกร่ง โดยสะท้อนจากตัวเลขการปล่อยสินเชื่อธุรกิจลูกค้าบุคคลของธนาคาร ที่มีการขยายตัวกว่า 16% และรายได้จากค่าธรรมเนียมที่เติบโตกว่า 20% นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยยังมีการใช้นโยบายด้านการจัดการความเสี่ยงที่ดี โดยการใช้โมเดลพฤติกรรมเป็นเครื่องมือ (Behavioral Model) ส่งผลให้ธุรกิจลูกค้าบุคคลของธนาคารมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่ระดับ 2.0% ซึ่งต่ำกว่าในระบบ
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยมีการขยายเครือข่ายการให้บริการเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2552 ธนาคารเปิดสาขาใหม่ทั้งสิ้น 120 สาขา และติดตั้งเครื่องเอทีเอ็มเพิ่มกว่า 1,800 เครื่อง ขณะเดียวกันธนาคารได้มีการริเริ่มโครงการยกเครื่องกระบวนการการทำงานใหม่ เพื่อทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างคล่องตัวขึ้น โดยการรวมศูนย์ฐานข้อมูลทั้งหมด และการบูรณาการช่องทางการให้บริการทั้งหลายให้อยู่ภายใต้โครงสร้างการให้บริการและการขายเดียวกัน
สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาด ธนาคารกสิกรไทยได้มีปรับเปลี่ยนรูปแบบแคมเปญทางการตลาดครั้งใหญ่ จากการใช้แคมเปญที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปเป็นวงกว้าง (Mass Approach) เปลี่ยนเป็นการใช้แคมเปญที่เข้าถึงลูกค้าผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ (Event-Based Approach) ตามกลุ่มลูกค้า (Segment) ซึ่งวิธีดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าหมายธุรกิจลูกค้าบุคคล ในปี 2553 จะเพิ่มจำนวนลูกค้าเป็นประมาณ 8.7 ล้านราย หรือเพิ่มขึ้น 17% ยอดสินเชื่อธุรกิจลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้นประมาณ 24,000 ล้านบาท หรือ 14-16% และมียอดสินเชื่อไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่ระดับไม่เกิน 2.2% ยอดเงินฝากโตอีก 8-10% สำหรับรายได้จากค่าธรรมเนียมในปี 2553 ธนาคารตั้งเป้าไว้ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34-36%