บ.ย่อย SPPT เจ๋งรายแรกของไทยเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นน้ำมันได้ ส่งขายโรงกลั่นน้ำมันบางจากแล้ว/มีกำลังการผลิตปีละ 1.35 ล้านลิตร

จันทร์ ๒๙ มีนาคม ๒๐๑๐ ๑๓:๕๗
SPPE บริษัทย่อยของ บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากความสำเร็จในผลิตน้ำมันที่เกิดจากการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นรายแรก ล่าสุดผลิตและส่งขายให้กับโรงกล่นน้ำมันบางจากได้แล้ว โครงการนำร่องที่เทศบาลเมืองหัวหินมีกำลังการผลิตปีละ 1.35 ล้านลิตร ผู้บริหาร SPEE เผยแนวโน้มของของธุรกิจมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เหตุประเทศไทยมีขยะฝังกลบที่เป็นพลาสติกมากถึง 5 ล้านตันต่อปี สามารถนำมาผลิตเป็นน้ำมันได้อีกเป็นจำนวนมาก

นางสันติวิภา พานิชกุล กรรมการบริหาร บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด หรือ SPEE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย)(SPPT) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจของ SPEE ว่าหลังจากที่ได้เริ่มติดตั้งเครื่องจักรและทดสอบขั้นตอนการทำงานเมื่อปลายปี 2552 และได้เริ่มทดลองการผลิตเต็มกำลังในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีกำลังการผลิต 6 ตันต่อวัน มีผลผลิตเป็นน้ำมัน 4,500 ลิตรต่อวัน หรือปีละประมาณ 1,350,000 ลิตรต่อปี

“เป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจอีกขั้นของ SPEE เพราะถือเป็นรายแรกของไทยและเป็นรายแรกของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากขยะที่เป็นวิกฤต แต่เราสามารถนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาจัดการและพลิกจากวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ โดยเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นน้ำมันซึ่งในปัจจุบันสามารถจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้แล้ว และกระทรวงพลังงานได้ให้ ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยได้มีการส่งเสริมด้วยการประกันราคาขายผ่านโรงกลั่นน้ำมันทุกแห่งที่ราคา 18 บาทต่อลิตร โดยเพิ่มจากราคาน้ำมันดิบดูไบ”

ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการลงนามในบันทึกความร่วมมือระหว่าง เทศบาลเมืองหัวหิน บมจ.บางจากปิโตรเลียม และ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด เพื่อจัดส่งน้ำมันดิบแปรรูปจากขยะพลาสติกไปจำหน่ายให้กับโรงกลั่นน้ำมันบางจากฯ เพื่อจะได้กลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปที่มีคุณภาพสูงจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ต่อไป

แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวต่อว่าแนวโน้มของธุรกิจดังกล่าวนี้ยังมีโอกาสเติบโตต่อไปในอนาคตได้อีกมากเนื่องจากประเทศไทยมีขยะฝังกลบอยู่ทั่วประเทศประมาณ 50 ล้านลิตรต่อปี ในจำนวนนี้เป็นขยะพลาสติก 10% หรือ 5 ล้านตันต่อปี หากสามารถนำมาผลิตเป็นน้ำมันดิบได้จะมีปริมาณมากถึง 23.58 ล้านบาร์เรลต่อปี สามารถลดการนำเข้ามันดิบคิดเป็นมูลค่ามากถึง 56,520 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในส่วนนี้ยังไม่นับรวมขยะที่เกิดขึ้นมาใหม่อีกประมาณ 15 ล้านตันต่อปี โดยขยะ 6-10 ตันสามารถผลิตเป็นน้ำมันดิบได้ 28-47 บาร์เรล(4,500-7,500 ลิตร)

นายจิระ พงษ์ไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่าเหตุผลที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวเนื่องจากต้องการแก้ปัญหาให้กับชุมชนท้องถิ่นหัวหิน โดยจะทำให้ท้องถิ่นสามารถแก้วิกฤตจากขยะพลาสติกที่ต้องรอการย่อยสลายอีก 500 ปี ให้เป็นโอกาสในการสร้างพลังงานทดแทน

สำหรับเทศบาลเมืองหัวหิน พบว่ามีศักยภาพของพื้นที่ ที่มีบ่อขยะฝังกลบทั้งสิ้นประมาณ 300,000 ตันแบ่งเป็นขยะพลาสติกประมาณ 30,000 ตัน และยังมีขยะเกิดใหม่อีกวันละ 100 ตัน ดังนั้นจึงมีศักยภาพเพียงพอที่จะผลิตน้ำมันดิบได้ ซึ่งขยะพลาสติก 30.000 ตัน สามารถผลิตเป็นน้ำมันดิบได้140,000 บาร์เรล

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :IR PLUS คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) 02-554-9396

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ