วว.เปิดตัว “ซี-ไรซ์” ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ .อาหารว่างสำหรับคนยุคใหม่

พฤหัส ๐๑ เมษายน ๒๐๑๐ ๐๘:๑๖
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พัฒนา ขนมขบเคี้ยวแบบแท่งเพื่อสุขภาพ “ซี-ไรซ์” จากข้าวและธัญพืช ระบุมีสารอาหารครบถ้วนทั้งโปรตีน ใยอาหาร แร่ธาตุ วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ คิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่เสริมคุณค่าทางโภชนาการเพื่อผู้บริโภคทุกวัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นอาหารว่างของคนยุคใหม่

นางเกษมศรี หอมชื่น ผู้ว่าการ วว. ชี้แจงว่า ฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร วว. ได้พัฒนา “ซี-ไรซ์” ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ โดยดำเนินการวิจัยอย่างครบวงจรตั้งแต่ การสำรวจข้อมูลทางการตลาดเบื้องต้น การศึกษาผลิตภัณฑ์ต้นแบบพร้อมทดสอบการยอมรับของผู้บริโภค ทดลองผลิตภัณฑ์ทางการตลาด รวมทั้งศึกษาอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ ที่ วว. พัฒนาขึ้นใช้วัตถุดิบหลักที่หาได้จากภายในประเทศ ได้แก่ ข้าวและธัญพืช เช่น ถั่วลิสง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน อัลมอลด์ ผลไม้อบแห้ง และน้ำผึ้ง โดยผลิตภัณฑ์ได้ปรับแต่งกลิ่น รสชาติและเนื้อสัมผัสของขนมและเสริมคุณค่าทางโภชนาการให้เหมาะสมกับวัยของกลุ่มผู้บริโภค 3 วัย ได้แก่ วัยเด็ก วัยทำงาน และวัยสูงอายุ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร แร่ธาตุ วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ แต่มีปริมาณไขมันและน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับนำไปรับประทานทดแทนมื้ออาหารหรือทานเล่นในยามว่าง

“...ตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าในปี 2553 จะมีมูลค่าทางการตลาดถึง 1.66 หมื่นล้านบาท แต่ปัจจุบันไทยนำเข้าขนมขบเคี้ยวที่ทำจากธัญพืชเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 80 ของขนมขบเคี้ยวที่นำเข้าทั้งหมด ดังนั้น วว.จึงได้พัฒนา “ซี-ไรซ์” ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพโดยใช้วัตถุดิบหลักจากภายในประเทศ อีกทั้งยังได้พัฒนาสูตรและรสชาติของผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงวัย โดยผลิตภัณฑ์มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นับเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ วว.ที่คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลักอย่างแท้จริง ทั้งนี้ วว.พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ซี-ไรซ์ให้แก่ภาคเอกชนเพื่อผลิตเชิงพาณิชย์” นางเกษมศรี หอมชื่น กล่าวเพิ่มเติม

นายศรีศักดิ์ ตรังวัชรกุล ผอ.ฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในการพัฒนา “ซี-ไรซ์” ทีมนักวิจัยได้ประยุกต์ใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล หรือ น้ำตาลแอลกอฮอล์ ในผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะให้ความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลแต่ให้พลังงานต่ำกว่า ร่างกายจะดูดซึมได้ช้า ทนอุณหภูมิสูงได้ดี ไม่เกิดการตกผลึกและกลิ่นรสที่เปลี่ยนแปลงไป อักทั้งยังช่วยให้ผิวอาหารมีความเงางามน่ารับประทานอีกด้วย สำหรับผลการศึกษาในด้านอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์สามารถเก็บได้ 3-4 เดือนในถุงอลูมิเนียมฟอยล์บรรจุก๊าซไนโตรเจน ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส ส่วนผลการทดสอบความชอบและการยอมรับของผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมายแต่ละวัย พบว่า ความชอบอยู่ในระดับชอบปานกลาง-ชอบมาก

นอกจากนี้ฝ่ายเทคโนโลยีอาหารยังได้ร่วมกับฝ่ายวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ศึกษาต่อยอดผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวจากธัญพืชโดยเติมสารเบต้ากลูแคนที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ชีวภาพพัฒนาขึ้น มีคุณสมบัติเป็นใยอาหารที่เป็นพรีไบโอติก และมีไขมันต่ำ ซึ่งจะช่วยกระตุ้มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อการเกิดโรคจากไวรัส ราและแบคทีเรีย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ซ่อมแซมเซลล์ผิวเก่าและยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์มะเร็งอีกด้วย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ดร.ปนิดา บรรจงสินศิริ หรือ คุณกฤตลักษณ์ ปะสะกวี โทร 0 2577 9135 และ 0 2577 9130 หรือ Call Center วว. โทร. 0 2579 3000 ในวันและเวลาราชการ www.tistr.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน
๑๘:๐๘ TKS จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2568 ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.33 บ./หุ้น
๑๘:๔๙ STECH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 แจกปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท
๑๘:๒๒ SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
๑๘:๐๖ ผู้ถือหุ้น FLOYD พร้อมใจเห็นชอบ ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น
๑๘:๑๑ TEKA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมไฟเขียวจ่ายปันผล 0.155 บาท
๑๘:๒๓ BRR จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น
๑๘:๓๘ กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน
๑๘:๑๘ ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ เอเชีย เอรา วัน และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมรักษ์โลก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
๑๗:๒๘ LPH ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.10 บ./หุ้น