นายธีระเมธ พกมณี กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“ถึงแม้มูลค่าทางการตลาดไอซีทีของปี 2552 ที่ผ่านมาจะมีตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ10ปีเพราะเศรษฐกิจโลกเกิดวิกฤต แต่ INETก็ยังสามารถยืนหยัดความสำเร็จสวนกระแสจากความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อINETยาวนานกว่า16ปี สำหรับในปีนี้ INETต้องการเพิ่มยอดขายทางการตลาดสูงกว่า20%โดยมุ่งไปที่การบริการลูกค้าในการสร้างความเชื่อมั่นบริการด้วยการรับประกันService Level Agreement (SLA) ในคุณภาพของวงจรFacilityที่การันตีด้วยประสิทธิภาพถึง 99.99% และNetworkที่มีการการันตีสูงถึง99.95% ซึ่งเป็นการรับประกันว่าเราจะรักษาระดับคุณภาพและความพร้อมที่จะทำให้ธุรกิจของท่านสำเร็จตามที่วางแผนไว้ในตอนต้น โดยในปีนี้เราพร้อมจะยึดมั่นการทำงานที่มุ่งเน้นการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ(Customer Centric) ซึ่งบริษัทเรามีบริการที่ครอบคุลมถึงความต้องการลูกค้าได้ทั้งหมด 3 กลุ่มดังนี้
Internet Accessการบริการระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการบริการแบบCorporate Node และ บริการ MetroLAN โดยในปีนี้เราเพิ่มขนาดของFiber Opticถึง10เท่า(10Gbps) เพื่อเพิ่มขนาดของการสื่อสารให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นที่จะทำให้องค์กรของคุณก้าวเป็น ”สำนักงานอัจฉริยะ”อย่างแท้จริง
INET Data Center (IDC) ศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์สำหรับองค์กรธุรกิจชั้นนำที่มีมาตรฐานที่ดีที่สุดในการบริการด้วยโครงข่ายที่มีเสถียรภาพเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญตลอด 24ชั่วโมง และเรายังมีศูนย์สำรองข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ (Disaster Recovery Center) และ Security Zone คือระบบที่ช่วยป้องกันการโจมตีและลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเครือข่ายหรือServerของลูกค้า
Business Solutionsบริการไอซีทีครบวงจรเพื่อเติมเต็มทุกความต้องการและเสริมประสิทธิภาพในการทำงานโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสื่อสารที่มีคุณค่าสูงเพื่อตอบสนองการดำเนินชีวิตและธุรกิจสมัยใหม่ และเรายังได้ก้าวสู่การเป็น ICT Solutions Provider อย่างเต็มตัวมาหลายปีแล้ว ซึ่งเห็นได้จากโครงการต่างๆในปีที่ผ่านมาที่เราได้เข้าเป็นที่ปรึกษาวางแผนการบริหารโครงการพร้อมร่วมปฏิบัติงานให้กับหลายหน่วยงานของรัฐ อาทิ โครงการต้นกล้าอาชีพ สังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีหรือระบบการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวรอบ2 ประจำปี 2552/2553 จากกรมส่งเสริมการเกษตร สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยเราสร้างความแตกต่างและมีจุดยืนในธุรกิจที่ชัดเจนในฐานะผู้ให้คำปรึกษาด้านระบบไอซีทีรวมถึงการวางแผนการบริหารงานการจัดการระบบ และการออกแบบระบบเพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของแต่ละหน่วยงานรวมถึงยังคอยดูแลปฏิบัติการทำงานเพื่อให้เป็นไปตามระบบที่วางไว้อย่างสมบูรณ์รวมทั้งการพัฒนาและรักษามาตรฐานการบริการจึงส่งผลให้ INETผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพการบริหารงาน ISO 9001:2008 อย่างต่อเนื่องถึง 10ปีและยังอยู่ในกระบวนการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูล ISO/IEC 27001:2005 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่รองรับความปลอดภัยของการให้บริการจากเราที่รับประกันว่าฐานข้อมูลและระบบอินเทอร์เน็ตจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
นายธีระเมธกล่าวต่อว่า “INETยังพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพราะเราเชื่อว่าหัวใจของธุรกิจไอซีทีนั่นก็คือการพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้ทันกับโลกที่หมุนอย่างรวดเร็ว หากเราช้าไปเพียงไม่กี่วินาทีในโลกของเทคโนโลยี อาจทำให้เราช้ากว่าคู่แข่งและพลาดการเป็นผู้นำไปอย่างน่าเสียดาย จึงคิดค้นบริการที่ล้ำหน้า คู่แข่งอยู่เสมอ ซึ่งในปีนี้เราจะก้าวเป็นผู้นำกระแสของCloud Computing ที่มีมูลค่าทางการตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน และเรายังเป็นผู้ประกอบการไอซีทีรายแรกที่นำระบบ Cloudเข้ามาประยุกต์ใช้โดยอาศัยNetwork Infrastructure ที่มีความเสถียรสูงสุด ที่จะเป็นพื้นฐานหลักในการนำเทคโนโลยี Cloud Computingเข้ามาเป็น On top Service ต่อไป โดยที่ผ่านมาเราให้บริการCloud Computingในรูปแบบ Software as a Service(SaaS) และInfrastructure as a Service ซึ่งในส่วนของSaaSได้แก่ Cloud Security บริการช่วยเก็บ Log ตามพ.ร.บ.การใช้คอมพิวเตอร์ ปี 2550 รวมทั้งบริการ Anti Virus และ Spam หรือ Mail Security ในรูปแบบOnline โดยในปีนี้เราจะให้บริการ Cloud Mail ซึ่งเราจะให้บริการMail Hosting โดยใช้ MS Exchange เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ติดต่อธุรกิจของลูกค้าไม่ว่าอยู่ที่ไหนทั่วมุมโลกก็จะสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมั่นใจต่อไป INETยังมีแผนพัฒนาการใช้ระบบCloud Mailบนระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกด้วย ในส่วนของบริการรูปแบบ Infrastructure as a Service เราจะให้บริการ Virtual Data Center ที่มีแนวโน้มเข้ามาทดแทนการใช้บริการ Co-locations ที่เพิ่มความสะดวกสบายและประหยัดต้นทุนของลูกค้าแต่ให้ประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม และยังเพิ่มการทำงานด้วยระบบOnline Storage ที่ช่วยในการBack Upข้อมูลลูกค้าเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ INET ยังขยายฐานตลาดลูกค้าเพื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นโดยได้ร่วมเป็น Business Partner กับ Microsoft เพื่อการพัฒนาบริการในปีนี้อย่างต่อเนื่อง
“นอกจากนั้น INET ยังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย(Support) และการสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเอาระบบ Social Network (Facebookและ Twitter) เข้ามาเพื่ออัพเดทข่าวสาร ความเคลื่อนไหวองค์กรแบบนาทีต่อนาที และเรายังเลือกใช้ระบบLive Support แบบ Real Time Interactive ผ่านเว็บไซต์ของไอเน็ต ที่ลูกค้าสามารถเข้าสู่ระบบการถาม-ตอบและปรึกษาทุกปัญหาที่เกิดขึ้นตามเวลาจริงด้วยทีมงานวิศวกรมืออาชีพ ที่มีความพร้อมและเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการเครือข่ายที่ได้รับ Certificateในระดับสากลที่คอยดูแลและให้คำปรึกษาด้านบริการอย่างมืออาชีพ จึงทำให้เราตีความหมายของสินค้านวัตกรรมInnovation ที่เราได้นำเสนอสู่สายตาของทุกๆท่านนั้น ไม่ได้เป็น Innovationที่หมายถึง Technology และ Commercial เท่านั้น แต่ยังเป็น Innovation ที่หมายรวมถึง People, Teamwork, Attitude, Process Improvement, และ Service Mind ที่ทีมงานทุกคนตั้งใจพัฒนาและสร้างสรรค์จากภายในองค์กร จนก่อเกิดเป็นความสำเร็จในเบื้องหน้าอย่างต่อเนื่อง” นายธีระเมธกล่าวเสริม
INETผู้นำบริการด้านไอซีที โซลูชั่นส์ครบวงจร โดยได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001: 2008 มาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจด้วยบริการคุณภาพและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เหนือใคร พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญและส่วนบริการที่ให้คำปรึกษาแบบครบวงจรCall Center 0-2257-7111
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2257-7111 INET