นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “ในปี 2552 ไทยมีรายได้จากการส่งออกสินค้าแฟชั่น 1.76 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 2.24 และ ในปี 2553 คาดว่าจะสูงเกิน 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึงร้อยละ 9-13 และจากการที่ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หลายฉบับมีผลบังคับใช้แล้วในปีนี้ คาดว่าจะส่งผลให้มูลค่าทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่ค้าจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว และได้ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงดังกล่าว การจัดงาน BIFF &BIL 2010 นับเป็นครั้งที่ 25 ซึ่งเป็นอีกเวทีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ผลิตที่เข้าร่วมแสดงสินค้าในงานและผู้ซื้อจากตลาดสำคัญๆ อย่าง ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลี จีน ไต้หวัน ตะวันออกกลาง รวมทั้งอเมริกาและยุโรป ได้มีโอกาสแสวงหาความร่วมมือ และพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน เนื่องจากเป็นงานแสดงสินค้าหนึ่งเดียวที่รวมสินค้า บริการ และวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมทุกสาขาที่เกี่ยวข้องจากผู้ผลิตชั้นนำในอาเซียนไว้อย่างครบครันที่สุด”
งาน BIFF & BIL 2010 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Look East” เป็นการแสดงถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมแฟชั่นของอาเซียน ซึ่งมีครบครันตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ ไปถึงปลายน้ำ โดยงานนี้จะเป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นจากผู้ผลิตชั้นนำในอาเซียนที่หลากหลายและครบวงจรที่สุด ทั้งสินค้าตาม เทรนด์ล่าสุด สินค้าในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ จากอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง และรองเท้า ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากการผสานความเชี่ยวชาญเฉพาะของแต่ละประเทศหรือท้องถิ่นเข้ากับความร่วมมือระดับภูมิภาค ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเล็งเห็นว่าการนำเสนอสินค้าร่วมกัน ในแนวคิด ASEAN INTEGRATION จะช่วยผลักดันให้สามารถเจาะเข้าถึงตลาดโลกได้มากขึ้นพร้อมทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อีกทางหนึ่ง
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง ปี 2553 หรือ BIFF & BIL 2010, ASEAN Integration Textiles — Apparel — Leather ปีนี้ได้ผลตอบรับดีเกินคาดจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องหนังทั้งในประเทศ และต่างประเทศร่วมแสดงสินค้ากว่า 1,016 คูหา จาก 595 บริษัทจากไทย อาเซียน ญี่ปุ่น โปแลนด์ ฮ่องกง จีน อิตาลี ฯลฯ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการในอาเซียนเข้าร่วมแสดงสินค้ามากถึง 116 คูหา ซึ่งถือว่าทะลุเป้า โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานจากทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา อินเดีย สเปน อิตาลี เยอรมัน อียิปต์ ออสเตรเลีย เดนมารค์ บราซิล และอื่น ๆ กว่า 1,200-1,500 ราย ในวันเจรจาการค้า และอีกว่า 35,000 รายที่เป็นบุคคลทั่วไป ในวันจำหน่ายปลีก ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า ด้วยศักยภาพของประเทศไทยผนวกกับความร่วมมือของกลุ่มอาเซียน 10 ประเทศ จะทำให้ภูมิภาคนี้สามารถเป็นศูนย์กลางเมืองแฟชั่นและเป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นที่หลากหลายและครบวงจรที่สุด”
“กิจกรรมหนึ่งที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือ การประชุมและสัมมนา Asian Designer Congress ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในงาน BIFF&BIL 2010 กำหนดจัดวันที่ 2 เมษายนนี้ ณ ห้องจูปิเตอร์ 6 เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างนักออกแบบแฟชั่นของเอเชีย และจัดตั้ง Thailand Designer Club ขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นโครงการนำร่องจุดประกายให้เกิดการจัดตั้ง Asian Designer Club ในระดับภูมิภาคต่อไป โดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมของนักออกแบบทั้งในประเทศ และจากกลุ่มอาเซียน และนำไปสู่การรวมตัวกันของนักออกแบบเพื่อเป็นศูนย์กลางแฟชั่นในภูมิภาคเอเชีย พร้อมผลักดันให้เกิดประโยชน์กับอุตสาหกรรมการออกแบบโดยตรง”
พร้อมกันนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมพิเศษหลากหลาย อาทิ
- การแสดงแฟชั่นโชว์รวม 48 รอบโชว์ บน Main stage และ Mini stage จาก
- ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)
- แฟชั่นโชว์พิเศษจากประเทศ จีน ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศอาเซียนได้แก่ อินโดนีเซีย ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และประเทศไทย
- แบรนด์ดังในประเทศ อาทิ แบรนด์จากสหกรุ๊ป แฟชั่นโชว์จาก Street Fashion Runway, Designers’ Room, แบรนด์ Kai, Micheal Angelo, Ethnic Thai, SC&F เป็นต้น
- การจัดประชุมและสัมมนา อาทิ
- “Trend Fashion 2011/12” โดยสถาบันแฟชั่นชื่อดัง WGSN
- “Apparel with “CoolMode”: Option for Low-Carbon Society” โดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
- “2010 Bangkok Thailand C&D International Chemical Group Special Size Material Symposium” โดยสมาคมอุตสาหกรรมทอผ้าไทย การสัมมนา “Lifestyle Forward Trend AW 2011/12: Powerful Evolution” โดยสถาบันวิจัยแฟชันแห่งประเทศไทย
- “How to do business in US” โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอส แอนเจอลิส (สคร.) แอลเอ / BLI
- “นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ ทางด้าน Functional Fabric และ Fiber” โดยสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย
- “New frontier of distribution system for fashion” โดยสำนักบริหารกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก
- นิทรรศการ อาทิ ASEAN Pavilion และ Japan Pavilion โครงการสร้างนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก หรือ Designers’ Room นิทรรศการ Thai Tex Trend (T3) และ Fashion Network: For US Market
- Business Matching บริการการจับคู่ทางธุรกิจ ระหว่างผู้เข้าร่วมงาน BIFF&BIL 2010 กับผู้นำเข้าจากต่างประเทศตลอด 4 วันของการจัดงาน
“อยากเชิญชวนผู้ประกอบการ และธุรกิจในอุตสาหกรรมแฟชั่นและประชาชนทั่วไปมาเที่ยวชมงาน BIFF & BIL 2010 เพื่อได้เห็นศักยภาพและความยิ่งใหญ่ของงานแฟร์ฝีมือคนไทยในเวทีระดับโลก ที่สามารถรวบรวมอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศมาจัดแสดงอยู่ในที่เดียวกันได้อย่างครบครัน ซึ่งจะจัดไปตั้งแต่วันที่ 1 เมษาถึงวันที่ 4 เมษายน 2553 นี้ โดยวันที่ 1-2 เป็นวันเจรจาการค้า และวันที่ 3-4 เมษายน เป็นวันขายปลีก ซึ่งแบรนด์เนมคุณภาพชั้นนำยกขบวนสินค้ามาจำหน่ายในราคาพิเศษสุดแบบไม่ควรพลาด ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี“ นางศรีรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวทิ้งท้าย
งาน BIFF & BIL 2010 , ASEAN Integration Textiles — Apparel — Leather กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 4 เมษายน 2553 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 1 - 2 เมษายน สำหรับนักธุรกิจ (เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.) วันที่ 3 - 4 เมษายน สำหรับประชาชนทั่วไป (เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.biffandbil.com สำหรับบริการ Business Matching สามารถ ดาวน์โหลด File: Exhibitor Application Form และ Buyer Application Form จาก www.biffandbil.com
บุคคลในภาพ:
ซ้าย: นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
กลาง: นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ขวา: H.E. Brig.Gen Aung Tun รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ ประเทศพม่า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท เเบรนด์คอม คอนซัลเเทนส์ จำกัด
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ งาน BIFF & BIL 2010 กรมส่งเสริมการส่งออก
ไพลิน บูรณะมิตรานนท์ / เสาวรินทร์ ทองทัศน์ / ปณิธาน ชุ่มเชื้อ
โทร 02-642-9620 (12 คู่สาย) แฟกซ์ 02-642-9688