จากการขยายความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ทั้งแอคเซนเจอร์และแซส มีมุ่งมั่นในการร่วมกันลงทุน เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ให้ความสำคัญกับแอพพลิเคชั่นการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อความสามารถในการคาดการณ์สำหรับธุรกิจเฉพาะ โดยเริ่มจากภาคบริการทางการเงิน บริการด้านสุขภาพ และบริการสาธารณะ รวมถึงโซลูชันที่ครอบคลุมทุกธุรกิจ ในด้านการจัดการองค์กรและลูกค้า นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำเสนอความสามารถด้านการวิเคราะห์ขั้นสูง ในรูปของบริการที่ได้รับการจัดการด้วย
โดยทั้งสองบริษัทฯ ได้ร่วมกันจัดตั้ง Accenture SAS Analytics Group ด้วยการนำความรู้ ด้านธุรกิจที่สามารถใช้งานได้จริง และความรู้ที่กว้างขวางด้านอุตสาหกรรมของบริษัท แอคเซนเจอร์ มารวมเข้ากับ โซลูชั่นและความสามารถขั้นสูงในด้านการวิเคราะห์ของบริษัท แซส เพื่อช่วยให้บริษัทและองค์กรภาครัฐต่างๆ มีความเข้าใจและสามารถติดตั้งระบบโซลูชั่นการวิเคราะห์ เพื่อนำข้อมูลมาใช้คาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ โดยข้อมูลที่ได้มาจากการวิเคราะห์ที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน มาทำงานร่วมกับโมเดลทางสถิติที่ครอบคลุมได้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถคาดการณ์ และปรับใช้เทคนิค ได้อย่างเหมาะสม สำหรับการคาดการณ์ผลกระทบที่จะส่งผลลัพธ์ทางธุรกิจได้
"ความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นของเรากับบริษัท แซส คือองค์ประกอบที่สำคัญทางกลยุทธ์ของบริษัท แอคเซนเจอร์ ในด้านการจัดการโอกาสจากการวิเคราะห์รุ่นใหม่" นายวิลเลียม ดี กรีน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) บริษัท แอคเซนเจอร์ กล่าว และว่า "บริษัทต่างๆ ที่ใช้การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ เพื่อให้ได้มุมมองจากข้อมูล ที่สามารถดำเนินงานได้จริงและใช้มุมมองดังกล่าว เพื่อช่วยในการตัดสินให้ดีขึ้นนั้น จะสามารถปรับปรุงผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นและสามารถนำหน้าคู่แข่งในระยะยาวได้อย่างชัดเจน"
นายจิม กูดไนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) บริษัท แซส กล่าวว่า "ด้วยประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานของเราในด้านการจัดหามุมมองการวิเคราะห์ให้กับลูกค้า เรายังไม่เคยพบผู้นำองค์กรรายใด ที่มีความพร้อมอย่างมากในการนำแนวทางการวิเคราะห์ไปปรับใช้ได้ทั่วทั้งองค์กรของตน โดย Accenture SAS Analytics Group จะช่วยให้บริษัทเหล่านี้ สามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจในระดับที่สูงขึ้น ด้วยการปรับใช้การวิเคราะห์ เพื่อการคาดการณ์ที่ดีเยี่ยมและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อตอบปัญหาที่ซับซ้อนและช่วยในด้านการตัดสินใจ ทั้งสองบริษัทจะให้แพลตฟอร์มการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งความเชี่ยวชาญด้านธุระกิจและการจัดการในรูปของแพลตฟอร์มอิสระ ดังนั้นองค์กรต่างๆ จึงสามารถนำไปใช้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ที่มีอยู่ของตนได้"
นายเฮนรี มอร์ริส รองประธานระดับสูงส่วนซอฟต์แวร์และบริการทั่วโลก บริษัท ไอดีซี ซึ่งเป็นองค์กรด้านการวิจัยชั้นนำด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยี กล่าวว่า "จากการร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการตอบสนองความต้องการในตลาดด้านนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก สิ่งที่กำลังขาดแคลนอยู่ในปัจจุบัน คือ ผู้เชี่ยวชาญที่คุ้นเคยกับเทคนิคการวิเคราะห์และรู้วิธีในการใช้เทคนิคดังกล่าว ไปใช้กับการตัดสินใจสำหรับธุรกิจเฉพาะได้ โดย Accenture SAS Analytics Group เป็นการรวมผู้นำในตลาดด้านซอฟต์แวร์การวิเคราะห์ขั้นสูง เข้ากับผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์อุตสาหกรรมและการประยุกต์ใช้งานของบริษัทผู้ให้บริการระดับโลก ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการนำโซลูชันสำหรับธุรกิจเฉพาะพร้อมใช้งาน รวมทั้งจัดหาบริการที่ได้รับการจัดการมาแล้วอย่างดี และสอดคล้องกับความต้องการของโครงการสำหรับองค์กรมาใช้ การรวมความสามารถของบริษัท แอคเซนเจอร์ และบริษัท แซส เข้าด้วยกัน จะทำให้การนำการวิเคราะห์ เพื่อการคาดการณ์ไปใช้ในกลุ่มองค์กรที่ครอบคลุม เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในศูนย์กลางที่สำคัญทั่วโลก"
ทั้งนี้ Accenture SAS Analytics Group เริ่มจากการให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุดโซลูชั่น เพื่อ การคาดการณ์สำหรับธุรกิจบริการทางการเงิน ได้แก่ การธนาคารและประกันภัย บริการด้านสุขภาพ ได้แก่ ผู้ชำระ/ผู้ให้บริการ และเภสัชกรรม ตลอดจนภาคสาธารณะ เช่น บริการภาครัฐและบริการประชาชน นอกจากนี้ ยังคาดว่าโซลูชั่นที่สามารถครอบคลุมได้ทุกธุรกิจ จะเริ่มปรับใช้ในด้านการแสวงหาลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ รวมถึงการวิเคราะห์องค์กรด้วย
นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังมีแผนที่จะร่วมกันสร้างส่วนแสดงการวิเคราะห์ในสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะเริ่มต้นที่ชิคาโก ลอนดอน มิลาน และนครเซียงไฮ้ โดยตั้งใจจะแสดงให้ลูกค้าได้เห็นถึงความสามารถด้านการวิเคราะห์เชิงพยากรณ์อุตสาหกรรมรูปแบบใหม่
"ในช่วงเศรษฐกิจขาลงก่อนหน้านี้ หลายบริษัทต่างต้องการมุมมองด้านข้อมูล เพื่อสร้างข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันแบบยั่งยืน" นายเดฟ ริช กรรมการผู้จัดการด้านการวิเคราะห์ของแอคเซนเจอร์ กล่าว และว่า "ในขณะนี้บริษัทสามารถใช้การวิเคราะห์ เพื่อการคาดการณ์ให้ได้มุมมองที่ลึกกว่าแบบไม่เคยได้รับมาก่อน ทำให้สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานธุรกิจให้ดีขึ้นได้"
จากงานวิจัยของบริษัท แอคเซนเจอร์ชิ้นใหม่ พบว่า 2 ใน 3 ของผู้จัดการระดับสูงในสหรัฐฯ และอังกฤษ ระบุว่าวัตถุประสงค์หลักในระยะยาวของตน คือ การพัฒนาความสามารถในการสร้างและทำนายพฤติกรรม การกระทำ และการตัดสินใจไปยังจุดที่มีการตัดสินใจในแต่ละส่วน และสามารถสร้างข้อเสนอได้ในเวลาจริงตามการวิเคราะห์ที่มีอยู่ในมือ[1] โดย Accenture SAS Analytics Group จะช่วยให้หน่วยงานธุรกิจและภาครัฐสามารถปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจของตนได้ดียิ่งขึ้น และให้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่มีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้นด้วย
บริษัท แอคเซนเจอร์ และบริษัท แซส ได้ทำงานร่วมกันอย่างประสบผลสำเร็จมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยได้มีลูกค้าร่วมกันกว่า 100 รายทั่วโลกในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ Norway Post, Safeco Insurance ในสหรัฐ, Snam Rete Gas ในอิตาลี และ UBS ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลก