ลภัสรดา ธนพันธ์ กรรมการบริหารและเจ้าของร้านอาหารฮาจิเมะ เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของร้านฮาจิเมะ มาจากที่ตนเองเป็นคนชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นพิเศษ เมื่อมีโอกาสจึงอยากสร้างร้านอาหารที่มีความพิเศษแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความสะอาดถูกสุขอนามัย ทั้งนี้ในปัจจุบันการทำอาหารหรือการเสิร์ฟอาหารอาจเกิดการปนเปื้อนระหว่างทางมายังลูกค้า การนำหุ่นยนต์มาให้บริการแทนคนตั้งแต่ในครัวจนถึงการเสิร์ฟอาหารจะสามารถรักษาความสดสะอาดของอาหาร และลดการปนเปื้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของลูกค้าที่มาใช้บริการ
จุดเด่นของร้าน คือ หุ่นยนต์อัจฉริยะ ซึ่งผลิตในประเทศญี่ปุ่น และได้รับการพัฒนาระบบโดยคนไทย โดยมีความสามารถที่หลากหลาย อาทิ สามารถแสดงอารมณ์ได้ เต้นรำตามจังหวะเพลง เสิร์ฟอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถทราบว่าอาหารในจานลูกค้าหมดและเก็บจานอาหารโดยอัตโนมัติ ซึ่งภายในร้านจะใช้หุ่นยนต์ทั้งหมดจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็นแบบ 1 แขน 2 ตัว ทำงานจัดเตรียมอาหารในครัว และแบบ 2 แขน 2 ตัว ทำหน้าที่รับถาดอาหารและวิ่งตามรางนำไปเสิร์ฟตามโต๊ะ โดยลูกค้าสามารถสั่งอาหารผ่านทางหน้าจอ touch screen ที่โต๊ะอาหาร
นอกจากนี้ทางร้านยังพิถีพิถันในการออกแบบตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศอบอุ่นด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น ผสมผสานกับความทันสมัย เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ โดยใช้งบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 450 ตารางเมตร บนชั้น 3 ของ “โมโนโพลี พาร์ค” คอมมูนิตี้มอลล์ แนวใหม่แห่งแรกในย่านพระราม 3 “ฮาจิเมะ” มีเมนูให้เลือกกว่า 100 รายการ และยังมีเนื้อพิเศษคือ โกเบ ซึ่งจะส่งตรงมาจากญี่ปุ่นเพื่อความสดใหม่สำหรับลูกค้าที่หลงใหลในเนื้อวัวโดยเฉพาะ
“ด้วยความพิเศษของหุ่นยนต์อัจฉริยะ อาหารที่สด สะอาด อร่อย พร้อมทั้งวัตถุดิบที่นำเข้ามาเป็นพิเศษ เรามั่นใจว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม รวมถึงผู้ที่สนใจเทคโนโลยีและต้องการพิสูจน์ความสามารถของหุ่นยนต์ได้เป็นอย่างดี โดยเราได้ตั้งเป้ารายได้ในปีแรกไว้กว่า 60 ล้านบาท และต่อไปก็จะมีการพัฒนาความสามารถด้านการบริการของหุ่นยนต์ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า” ลภัสรดา กล่าวทิ้งท้าย