นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 ได้มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทใหม่ได้แก่ บริษัท แอล แอนด์ อี โซลิดสเตท จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจผลิตโคมไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า และอุปกรณ์แสงสว่างที่ใช้ผลิตภัณฑ์ LED โดยมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 1 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ซึ่ง L&E ถือหุ้น ในสัดส่วนร้อยละ 100 หลังจากพบว่าผลิตภัณฑ์ LED มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วถึงปีละกว่า 30% และมีแนวโน้มจะพัฒนาขึ้นมาทดแทนสินค้าหลอดไฟฟ้าแบบเดิมถึง 30% ภายในเวลา 5 ปีข้างนี้ การจัดตั้งบริษัทฯ ขึ้นมาดูแลธุรกิจนี้อย่างเป็นทางการจึงเพื่อรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจนในอนาคต
"แอล แอนด์ อี โซลิดสเตท จะเป็นบริษัทใหม่ที่จะเข้ามาบริหารโรงงานการผลิตผลิตภัณฑ์ LED อย่างเต็มตัว จากที่ก่อนหน้านี้เป็นเพียงแผนกหนึ่งใน L&E เท่านั้น หลังจากที่เราพบว่าผลิตภัณฑ์ LED เติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในตลาดเมืองไทย และในตลาดโลก ทำให้จำเป็นต้องขยายกำลังการผลิตขึ้นมารองรับโอกาสทางธุรกิจดังกล่าว และเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์ LED ซึ่งปัจจุบันนี้ L&E ถือเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน เพราะเราผลิตและส่งออกไปจัดจำหน่ายในหลายประเทศทั่วภูมิภาคนี้ ทั้งสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนาม และอื่นๆ โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรการผลิตเครื่องใหม่ที่ทันสมัย โดยใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ และจะรับรู้เป็นรายได้ทันที"
นายปกรณ์ กล่าวต่อว่าการจัดตั้ง แอล แอนด์ อี โซลิดสเตท ขึ้นมาดูแลธุรกิจ LED อย่างเต็มตัว และ มีเครื่องจักรการผลิตที่ทันสมัยจะทำให้บริษัทสามารถผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทนี้ได้อย่างครบวงจร ทำให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเมืองไทยและตลาดในภูมิภาคอาเซียนได้เต็มภาคภูมิ สามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ซึ่งในปีที่ผ่านมา L&E มีรายได้จากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ LED ประมาณ 95 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% ของรายได้รวมของบริษัทฯ ส่วนในปีนี้หลังจากที่เครื่องจักรใหม่สามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้คคาดว่าจะทำรายได้ให้เติบโตได้ประมาณ 30% จากรายได้ในปีก่อน หรือคิดเป็นสัดส่วน 7% ของรายได้รวม ส่วนในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า คาดว่าผลิตภัณฑ์กลุ่ม LED ของบริษัทฯ จะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 20%
เขากล่าวอีกว่าในปีนี้นอกจากบริษัทฯ มีเป้าหมายรักษาความเป็นผู้นำในด้านผลิตภัณฑ์ LED แล้วบริษัทฯ ยังมุ่งรักษาความเป็นผู้นำทางด้านงานโครงการ และจะมุ่งมั่นขยายการค้าปลีกผ่าน Lighting Solution Center (LSC) ที่ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ซึ่งปัจจุบันนี้รายได้ที่ได้รับจาก LSC ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนเป้าหมายรายได้ปีนี้คาดว่าจะยังเติบโตในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,475.60 ล้านบาทได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าการเมืองในประเทศจะยังไม่เอื้ออำนวยนัก
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
IR PLUS : คุณปภาดา สุวรรณกูฏ (ตุ้ย)
Tel. 02-5549396 , 085-1330184 E-mail : [email protected]