สำหรับการถ่ายทำ ฉากเลิฟซีน ฉากสำคัญนี้ นับเป็นการแสดงเลิฟซีนครั้งแรกของหนุ่ม เจมส์ แมคกี้ และสาวนุ่น โดยเฉพาะสาวนุ่น ที่ยอมรับว่า ตัดสินใจยากมากกว่าจะถ่ายทำฉากนี้ได้ ถึงขนาดต้องมีเคลียร์ ขออนุญาตคุณแม่เป็นพิเศษกันเลยทีเดียว เล่าว่า “นุ่นใช้วิธีเอาบทให้แม่อ่าน เอาเรื่องให้แม่อ่านทั้งหมด บอกแม่ตรงๆ ว่า บทนี้เป็นบทสำคัญของนุ่นจริงๆ ก็เอาบทให้เขาอ่าน แล้วรอลุ้นในห้องว่า แม่จะว่าอะไรไหม แม่ก็ใช้วิธีนิ่งกลับ แล้วแม่ก็บอกว่า แสดงให้ดีๆ แล้วกัน นุ่นบอกแม่ว่า นี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของนุ่นในการเป็นนักแสดง เป็นบทบาทที่จะวัดว่า เราจะข้ามกรอบ ข้ามเส้นความเป็นไปไม่ได้ของตัวเองไปได้ไหม นุ่นไม่สามารถบอกใครได้ว่า ตัวเองเป็นนักแสดงที่ดีได้ ถ้านุ่นยังไม่สามารถเล่นได้ทุกบท นุ่นอยากข้ามข้อจำกัด ว่า เป็นนางเอกเล่นบทโน้นไม่ได้ เป็นนางเอกต้องเล่นแต่บทแบบนี้ นุ่นยังแปลกใจ ไม่น่าเชื่อที่คนอย่างคุณแม่นุ่น จะเห็นด้วย เพราะแม่เป็นอาจาร์ย มีกฎระเบียบความเป็นครูสูงมาก แต่เขามีมุมมองของผู้ใหญ่ที่รักลูก อันไหนที่นุ่นอยากทำจริงๆ เขาเห็นความตั้งใจ เขาก็ อึม ยอมรับ ตอนแรกนึกว่า แม่จะหัวโบราณมาก แต่เขาก็เปิดช่องว่า นี่คือการแสดง คนดูจะแยกแยะได้ว่า นี่เป็นงาน นุ่นไม่ได้เป็นคนแบบนี้ นุ่นว่า แม่เชื่อใจนุ่น อยากทำก็ทำ แต่ว่า ดีๆแล้วกัน”
“ก่อนเปิดกล้อง นุ่นก็ฟิตร่างกายมาประมาณหนึ่ง เพราะอยากมั่นใจในรูปร่างตัวเอง จะได้ไม่พะวงกับเสื้อผ้า หรือการแสดง แต่มาถึงการแสดงเลิฟซีนนี่ ยอมรับว่า ตอนแรกกังวลมาก กลัวตอนถ่ายเลิฟซีนไม่รู้จะเป็นยังไง ที่บ้านนุ่นก็เข้มงวดพอสมควร การที่เราตัดสินใจเล่นนี่ คิดมากพอสมควร แล้วข่าวภาพหลุดหรือะไรก็มีบ่อย ต้องขอบคุณพี่ยู ผู้กำกับฯ และทีมงาน เพราะช่วยเซฟให้จนนุ่นมั่นใจ แสดงได้เต็มที่ ถึงเวลาถ่ายนี่ พี่ยู ผู้กำกับฯ จะเซตทุกอย่างไว้ก่อนเลย และจำกัดคนว่ามีใครอยู่ได้บ้าง แม้กระทั่งจำนวนคนที่ดูมอนิเตอร์ก็จำกัดด้วย พี่ยูประกาศเลยว่า ไม่มีถ่ายภาพนิ่ง ห้ามโทรศัพท์ เพื่อนักแสดงไม่ต้องระแวงว่า จะถ่ายรูปหรือเปล่า เพื่อให้เราเล่นได้เต็มที่ มีสมาธิกับการแสดง พอเรารู้สึกว่า เซฟไม่มีหลุด ทุกคนให้เกียรติ ไม่มีให้ระแวง ที่เหลือเราก็รอฟังผู้กำกับฯว่า ต้องการประมาณไหน ที่สำคัญ เจมส์เป็นสุภาพบุรุษมาก เวลาเล่นเลิฟซีน มีแค่เรากับเขาที่อยู่ด้วยกันหน้ากล้อง พอคัทปุ๊บเขาจะรีบคลุมผ้าให้เรา เขาก็จะเซฟให้นุ่นด้วย ภาพมุมมองพี่ยู ไม่ได้ออกมาน่าเกลียดเลย เป็นภาพที่เล่าเรื่อง เล่าสภาพอารมณ์ตัวละคร ไม่ใช่ว่า ต้องมีเลิฟซีน เพราะต้องเป็นจุดขาย แต่ทุกซีนมันมีเหตุผลของที่มาที่ไป นุ่นเชื่อว่าการแสดงฉากนี้ของนุ่น ต้องมีฟีคแบคกลับมา แน่นอน ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม นุ่นยอมพร้อมรับฟัง เราได้เลือกแล้ว เราอยากแสดงบทนี้ อยากเป็นนักแสดงจริงๆ บางอย่างมันต้องแลก ตอนนี้ นุ่นก็รอเปิดรับอย่างเดียว นุ่นทำงานของนุ่นเสร็จแล้ว ได้ทำงานของนุ่นเต็มที ผู้กำกับฯโอเค ที่เหลือคือ ฟีคแบ็ค เราก็ต้องรับฟัง”
ห้ามพลาดบทบาทสำคัญ ที่นุ่น ศิรพันธ์ ทุ่มเทแสดงสุดตัวเพื่อภาพยนตร์สยองขวัญ “ 9 วัด” ภาพยนตร์ที่จะเปลี่ยนมุมมองเรื่องกรรมของคุณตลอดไป พร้อม