ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานของธนาคารปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ ไตรมาส 1/2552 ได้แก่ รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 55% และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 89% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เพียง 51% และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/2552 จุดที่ปรับปรุงดีขึ้นได้แก่ รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 12% และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 22% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 9%
นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราพอใจกับการเริ่มต้นที่แข็งแกร่งในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ธนาคารฉลองการครบรอบปีที่ 65 ของการก่อตั้ง โดยผลประกอบการของธนาคารในไตรมาสแรกนี้ ปรับดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อนและแผนที่วางไว้ ธนาคารรายงานกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบปีต่อปี ในขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นเท่าตัว ผลการดำเนินงานที่ดีนี้ทำให้ธนาคารสามารถใช้โอกาสต่อยอดความแข็งแกร่งของงบดุลด้วยการเพิ่มสัดส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารเป็น 79% ในขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิของธนาคารลดลงอยู่ที่ระดับ 4.9% ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแผนการเร่งลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร ”
“ในขณะที่การดำเนินงานด้านการผสานธุรกิจของบริษัทในเครือธนาคารให้มีความกระชับมากขึ้น เป็นไปด้วยดีตามแผน 12 เดือนที่วางไว้ ผลกำไรที่ปรับดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของไตรมาสแรกนี้สะท้อนให้เห็นว่าความพยายามในการผสานธุรกิจและการสร้างประโยชน์สูงสุดจากศักยภาพของธนาคารและบริษัทในเครือกำลังเริ่มส่งผล เรามั่นใจว่าโครงสร้างที่แข็งแกร่งของธนาคารที่เราสร้างขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้สำหรับปีนี้ จากนี้ไปเราจะยังคงทุ่มเททำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะรักษาระดับการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อไปในอนาคต” นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าวในที่สุด
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2553 ตามงบการเงินรวม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีสินทรัพย์รวม 821,632 ล้านบาท มีสินเชื่อรวม 606,921 ล้านบาท มีเงินฝาก 534,019 ล้านบาท และมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 14.5% โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ระดับ 11.75%
ข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 ปัจจุบันเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 821,632 ล้านบาท เป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรแก่ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ผ่านเครือข่ายสาขา 575 แห่งทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 จีอี มันนี่ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจและความเชื่อมั่นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับการผสานความสามารถทางธุรกิจของสององค์กร เพื่อให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย โดยปัจจุบัน จีอี มันนี่ และกลุ่มรัตนรักษ์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารในสัดส่วนร้อยละ 33 และร้อยละ 25 ตามลำดับ ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร www.krungsri.com
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 02 296 2443, 02 296 3795
โทรสาร 02 683 1271
อีเมล์ [email protected]