นางสุทธศรี กล่าวย้อนถึงการจัดงานในครั้งแรกว่า ครั้งที่แล้ว สกศ.ได้ทำการวิจัยกลุ่มเป้าหมายคือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 17 เขต และสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 78 แห่ง นำมาพัฒนาให้สามารถนำการจัดการความรู้ไปสู่การปฏิบัติในองค์กร ผลการวิจัยทำให้เกิดทีมจัดการความรู้และนักจัดการความรู้ โดยนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ในการพัฒนางานทางด้านการศึกษา และสามารถเป็นต้นแบบแพร่ขยายสู่องค์กรอื่น และได้นำเสนอ ในการจัดงานตลาดนัดการจัดการความรู้ครั้งแรก เพื่อเผยแพร่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมทั้งได้ข้อเสนอแนะด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ส่งเสริมให้องค์กรสถานศึกษาใช้การจัดการความรู้ในการพัฒนาการศึกษาและปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อนำไปสู่คุณภาพของผู้เรียน
“สำหรับการจัดงานตลาดนัดการจัดการความรู้ครั้งที่ 2 ก็เพื่อต่อยอดจากครั้งแรก ให้เป็นเวทีนำเสนอ เผยแพร่และแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้และนวัตกรรมทางการศึกษา ร่วมกันปฏิรูปการศึกษาด้วยการเติมเต็มความรู้ เครื่องมือและกระบวนการต่างๆ และภายในงานได้มีกิจกรรมและนวัตกรรมจากโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษามานำเสนอและจัดแสดงแลกเปลี่ยนเรียนรู้เล่าสู่กันฟัง ซึ่งจะทำให้เกิดแนวคิดและนำสิ่งที่เป็นองค์ความรู้ใหม่ๆ ไปปรับปรุงเสริมแต่งเพื่อพัฒนาผู้เรียน ให้เด็กได้แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้เด็กได้ฝึกวิเคราะห์และนำมาต่อยอด เป็นการเสริมสร้างแรงจูงใจให้ครู อาจารย์ และนักเรียนได้มีกำลังใจสานต่อโครงการอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายคือ การให้คนไทยใฝ่รู้ ใฝ่ดี คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหา โดยการนำสิ่งที่ได้ไปใช้พัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา อันจะนำไปสู่เป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองได้ดียิ่งขึ้น” รองเลขาธิการ สกศ. กล่าวทิ้งท้าย