สำหรับจุดเด่นของการกำจัดขยะในเมืองฟูกุโอกะ คือ โรงเผาขยะ โดยมีรถเก็บขยะออกทำหน้าที่เก็บขยะในช่วงเวลากลางคืนตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป ซึ่งแตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในญี่ปุ่น เพราะในเวลากลางคืนถนนโล่งสามารถทำงานได้สะดวกรวดเร็วกว่าในช่วงกลางวัน และเมื่อเก็บขยะเสร็จเรียบร้อยแล้ว รถขยะก็จะนำขยะไปส่งยังโรงเผาขยะตั้งแต่ช่วง 01.00-08.00 น. ของทุกวัน โดยรถขนขยะทุกคันจะผ่านการชั่งน้ำหนักรถพร้อมขยะเต็มคันก่อนทุกครั้ง จากนั้นจึงนำขยะมาเทลงในหลุมซีเมนต์ขนาดยักษ์สำหรับขยะโดยเฉพาะ ก่อน ที่จะใช้เครนตักขยะที่สามารถตักได้ครั้งละประมาณ 7-8 ตันเข้าสู่เตาเผา โดยอุณหภูมที่ใช้ในการเผาอยู่ที่ 850 องศาเซลเซียส ใช้เวลาเผาแต่ละครั้งประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งในแต่ละวัน โรงกำจัดขยะสามารถเผาขยะได้ประมาณ 900 ตันต่อวัน โดยควบคุมการเผาขยะด้วยระบบอัตโนมัติผ่านระบบคอมพิวเตอร์และกล้องวงจรปิด และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเครื่องเพียง 5 คน ต่อกะเท่านั้น
ในแต่ละปีมีการใช้น้ำมันเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในการเผาเพียงปีละ 1-2 วัน ส่วนในวันที่เหลือจะเป็นการใช้พลังงานที่ได้ จากการเผาขยะมาเป็นพลังงานหมุนเวียนเพื่อหล่อเลี้ยงกระบวนการเผาขยะให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง และมีการนำพลังงานที่เหลือใช้ไปจำหน่ายให้แก่โรงงานไฟฟ้าอีกด้วย ภายหลังจากการเผาเสร็จสมบูรณ์จะขนขี้เถ้าที่เกิดขึ้นไปถมยังหลุมขยะ
นายวาตารุ อาโสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดฟุกุโอกะ กล่าวว่า นอกเหนือจากวิธีการกำจัดขยะด้วยโรงเผาขยะแล้ว เมืองฟุกุโอกะยังมีวิธีการลดปริมาณขยะอย่างง่ายๆ คือ การสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมองขยะเป็นเหมือนขุมทรัพย์เนื่องจากขยะบางชนิด เช่น ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถนำมาคัดแยกหาส่วนประกอบที่มีมูลค่าได้ ทั้งนี้ นายวาตารุ จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อเป็นประธานพิธีเปิดสำนักงานจังหวัดฟุกุโอกะแห่งที่ 6 ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ในเดือนตุลาคม 2553 นี้ด้วย