นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) TMI ผู้ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง อุปกรณ์ควบคุมที่เกี่ยวขั้อง รวมทั้งหลอดไฟ โคมไฟ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 80 ล้านบาท และเป็นทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว 60 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 240 ล้านหุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท) บริษัทมีความพร้อมที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.88 บาท ระหว่างวันที่ 28-30 เม.ย.นี้ และจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ภายหลังการเสนอขายหุ้นจะทำให้สัดส่วนหุ้นที่เสนอขายคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมด
ทั้งนี้จะจัดสรรหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 80.00 ล้านหุ้น โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นครั้งนี้เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์บัลลาสต์อิเลคทรอนิคส์ หลอดไฟและรีโมทสวิทช์ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40%ของกำไรสุทธิ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2552 บริษัทมีรายได้ทั้งหมด 295.87 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.63 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายมาจากผลิตภัณฑ์สินค้า 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์บัลลาสต์ และหม้อแปลงไฟฟ้า (บัลลาสต์สำหรับหลอดไฟในอาคารบ้านเรือน บัลลาสต์สำหรับหลอดไฟ ปล่อยประจุความเข้มสูง (HID) หม้อแปลงสำหรับหลอดฮาโลเจน) 2.หลอดไฟฟ้าแบบปล่อยประจุความเข้มสูง(HID) 3.อุปกรณ์ส่วนควบที่ใช้ในวงจรไฟฟ้าแสงสว่าง 4.กลุ่มผลิตภัณฑ์อำนวยความสะดวกภายในบ้าน และ 5.กลุ่มผลิตภัณฑ์โคมไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันรายได้โดยส่วนใหญ่ของบริษัทยังมาจากบัลลาสต์ และหม้อแปลงไฟฟ้ามากกว่า 60%
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัดAPM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า TMI เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดี เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานพลังงาน และบริหารโดยคนรุ่นใหม่ ทำให้ธุรกิจมีศักยภาพ จนสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำที่ 1.2 ต่อ 1 เท่า และการเข้าจดทะเบียนในตลาด mai มีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ และเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางผู้บริหารพร้อมทั้งแกนนำ underwrite ร่วมเดินทางนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (road show) 7 จังหวัดที่ผ่านมา ได้แก่ ชลบุรี, พิษณุโลก, นครราชสีมา, ขอนแก่น, หาดใหญ่ สงขลา, เชียงใหม่ และปิดท้ายที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กรุงเทพฯ พบว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และบริษัทยังอยู่ระหว่างการยื่นขอสิทธิจาก BOI ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทางด้านภาษีต่อบริษัทในอนาคต
ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน) FSS ในฐานะแกนนำในการรับประกันและจัดจำหน่ายหุ้น กล่าวว่า ในการขายหุ้นครั้งนี้จะมี ผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย (underwriter) ทั้งสิ้น 6 ราย ประกอบด้วย บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นแกนนำ (lead underwriter) และมีผู้ร่วมรับประกันการจำหน่าย (co-underwriters) ได้แก่ บล.นครหลวงไทย จำกัด บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บล.สินเอเซีย จำกัด บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบล.ไอวี โกลบอล จำกัด
ทั้งนี้ การกำหนดราคาขายหุ้นละ 0.88 บาท เป็นราคาที่ประเมินจากค่า P/E ratio 8 เท่า ซึ่งหากเทียบกับ P/E กลุ่มบริษัทในmaiจะอยู่ที่ 16 เท่า จึงเป็นระดับราคาที่เหมาะสม รวมทั้งบริษัทยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40%ของกำไรสุทธิ ดังนั้นเชื่อว่าหุ้น TMI จะเป็นที่สนใจของนักลงทุน
“หุ้น TMI เป็นหุ้นพื้นฐานดี และถือเป็นตัวแรกที่เข้าตลาด mai ในปีนี้ ซึ่งดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 30 ปี จึงค่อนข้างเข้าใจธุรกิจดี อีกทั้งยังมีความหลากหลายในสินค้าทุกประเภท และมีศักยภาพในการทำกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง จะเห็นได้จากผลประกอบการในปี 2552 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 25% และอัตราการทำกำไร (Net Profit Margin) อยู่ที่ 8% ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้”นายสมภพ กล่าว
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
บริษัท เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
สมพร เจนเขา(ปุ๊กกี้)
The Way Communication Co.;Ltd.
Email:[email protected]