นายบัณฑิต ลีเลิศพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด ผู้นำยาสีฟันสมุนไพรไทย “ดอกบัวคู่” เปิดเผยว่า “ สมุนไพรไทย ถูกนำมาใช้เพื่อสุขภาพช่องปากมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เพราะคุณสมบัติที่ดีจึงได้รับถ่ายทอดเป็นภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น โดยไม่เพียงแต่เฉพาะประเทศไทยที่นำภูมิปัญญาด้านสมุนไพรมาใช้เพื่อสุขภาพ แต่ในต่างประเทศก็มีการใช้สมุนไพรสำหรับสุขภาพของช่องปากเช่นกัน โดยเฉพาะข่อย แก้ว พญายอ ซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและลดอาการอักเสบ อันเป็นสาเหตุของโรคในช่องปาก ข่อย หรือ Tooth brush tree คนไทยโบราณเรียกว่า “แก่นไม้แก้แมงกินฟัน” โดยคนโบราณจะใช้กิ่งข่อยมาทุบและใช้แทนแปรงสีฟัน ทำให้ฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุ แก้เหงือกบวม นอกจากนี้ในต่างประเทศ เช่น บังคลาเทศ อินเดีย ก็ใช้ข่อยในการรักษาแผล โดยเลือกใช้ยางจากต้นข่อยในการฆ่าเชื้อ ส่วนแก้ว เป็นสมุนไพรช่วยลดอาการปวดฟัน นำมาต้มอมแก้ปวดฟันได้ และพบว่าในประเทศจีนและมาเลเซีย ก็มีการใช้น้ำต้มอมแก้ปวดฟันได้ สำหรับพญายอ เป็นสมุนไพรที่คนโบราณใช้สำหรับรักษาอาการอักเสบ แผลอักเสบได้ชะงัด
กว่า 30 ปี ที่ดอกบัวคู่ได้นำสมุนไพรเหล่านี้มาพัฒนาโดยแผนกค้นคว้าวิจัยที่ทันสมัย ตลอดจนบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทำการทดสอบยืนยันตามหลักทางวิทยาศาสตร์ถึงคุณสมบัติยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และพบว่าสมุนไพรไทยของเรา ข่อย แก้ว พยายอ มีคุณสมบัติสามารถดูแลสุขภาพช่องปาก และยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคในช่องปากได้เป็นอย่างดี ล่าสุดเป็นที่น่ายินดีเมื่อ IBS ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยชั้นนำ ได้ทำการวิจัยยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่ Anti Bac Herbs และพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสามารถลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากได้ ไม่ต่างจากสารเคมี
สำหรับนายชินจิ ซูกิยาม่า ประธานกรรมการ บริษัทนิปปอนเซตโต จำกัด บริษัทผลิตและจัดจำหน่าย ยาสีฟันชั้นนำประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “สมุนไพรไทยไม่ได้มีชื่อเสียงในประเทศไทยเท่านั้น ที่ญี่ปุ่นเองซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ห่วงใยด้านสุขภาพในอันดับต้นๆ ของโลก เมื่อได้ทราบเกี่ยวกับการวิจัยในครั้งนี้ ก็ให้ความสนใจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยเป็นอย่างมาก โดยต่อไปเรื่องราวของสมุนไพรดอกบัวคู่และการวิจัยนี้ จะได้ถูกนำไปขยายผลต่อไปในประเทศญี่ปุ่นด้วย”
ศ.ทพญ.ละอองทอง วัชราภัย ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอนามัยภายในช่องปาก จากมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า “ ปฎิเสธไม่ได้ว่าโรคซึ่งเป็นปัญหาใหญ่และพบมากสำหรับสุขภาพช่องปากของคนทั่วไป คือโรคฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุจากคราบจุลินทรีย์ หรือ term ที่เรียกว่า Dental Plaque ในคราบจุลินทรีย์จะประกอบด้วยแบคทีเรียเป็นจำนวนมาก เมื่อเรารับประทานอาหารจำพวกแป้งเข้าไป แล้วทำความสะอาดไม่ดีโดยเฉพาะบริเวณซอกฟัน ร่องฟัน แบคทีเรียจะย่อยสลายแป้งและน้ำตาลเกิดเป็นกรด ซึ่งจะกัดกร่อนเคลือบฟันและเนื้อฟัน ส่งผลให้ฟันเป็นโพรง หรือเรียกว่าฟันผุ แบคทีเรียหลัก ที่ทำให้เกิดโรคฟันผุนี้ ได้แก่ Streptococcus mutan นอกจากนี้ในคราบจุลินทรีย์ที่ติดอยู่ระหว่างร่องเหงือกและฟันถ้ามีการสะสมของอนินทรีย์สาร เช่น แคลเซียม และฟอสโฟรัสจากน้ำลาย เกิดเป็นคราบจุลินทรีย์ที่แข็ง เรียกว่าหินปูน ถ้าหากไม่ไปพบทันตแพทย์เพื่อรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ คราบหินปูนนี้จะก่อให้เกิดโรคเหงือกอักเสบและโรคภายในช่องปากชนิดอื่นๆ ได้
หลายรายงานวิจัยสนับสนุนว่าสารเคมี ไตรโคซาน (triclosan) ที่ผสมในยาสีฟันมีส่วนช่วยลดคราบจุลินทรีย์ที่สะสมภายในช่องปากได้ แต่เป็นที่น่าสนใจมากเมื่อรายงานทั้งวารสารภายในและต่างประเทศ ได้แสดงให้เห็นว่ายาสีฟันที่ผสมสารสมุนไพร ก็มีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรียไม่ต่างจากสารเคมีเช่นกัน สำหรับคนไทยมีความได้เปรียบในเรื่องของสมุนไพร ดังนั้นยาสีฟันที่ผลิตในประเทศไทยที่มีส่วนผสมของสมุนไพรพวก ข่อย แก้ว พญายอจะทำให้มีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรีย และลดการอักเสบได้ ซึ่งรายงานการวิจัยของ IBS หรือบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ไบโอเซอร์วิส จำกัด พบว่ายาสีฟันที่มีส่วนผสมของ ข่อย แก้ว พญายอมีคุณสมบัติ Anti bacteria ซึ่งสามารถลดการสะสมของแบคทีเรียไม่ต่างจากยาสีฟันที่มีสารไตรโคซาน นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการสาธารณสุขปี พ.ศ.2541 (Journal of Health Science) ก็ให้ผลว่ายาสีฟันที่มีส่วนผสมของสมุนไพรดังกล่าว เมื่อผู้ป่วยใช้ร่วมกับการแปรงฟันช่วยลดคราบจุลินทรีย์และเหงือกอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การลดหรือป้องกันโรคในช่องปากสามารถทำได้ โดยการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ และถูกวิธีหรืออาจร่วมกับการเลือกใช้ยาสีฟันที่มีคุณสมบัติ Anti bacteria ยาสีฟันที่มีพืชสมุนไพรในส่วนผสม เป็นทางเลือกหนึ่งแทนการใช้สารเคมีที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ตามการพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบสุขภาพช่องปากทุกๆ 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละครั้งก็เป็นสิ่งที่ควรปฎิบัติ” ศ.ทพญ.ละอองทอง วัชราภัย กล่าวทิ้งท้าย
ฟังอย่างนี้แล้ว ก็อดปลื้มใจแทนคนไทยไม่ได้ ขนาดคนต่างชาติเค้ายังหลงไหลชื่นชมและชื่นชอบในสมุนไพรไทยกันขนาดนี้ แต่เรากลับโชคดีที่เกิดเป็นคนไทย เพราะเรามีสมุนไพรไทยอย่างข่อย แก้ว พญายอ ที่มีคุณสมบัติล้นในการช่วยพิทักษ์รักษาโรคในช่องปากกันให้ใช้อย่างสบายใจ คุณสาวๆ ได้ฟังอย่างนี้แล้ว ก็ต้องตอบตัวเองให้ได้นะคะว่า “ใช้สารเคมีทำไม ในเมื่อสมุนไพรก็ทำได้”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณผกาพรรณ ทองน้อย, คุณรัชนีย์ อุ่นจิตต์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ไดเร็คท์ เรสพ็อนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. (66) 2715-3105, 2715-3104 หรือ 081-647-3991, 081-931-0749
E-mail : [email protected], [email protected]