กทม.ย้ายนักเรียนในพื้นที่การชุมนุมเพื่อความปลอดภัยในช่วงเปิดเทอม

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการรักษาความปลอดภัยนักเรียนและโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครในสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกอบด้วย โรงเรียนในพื้นที่เขตปทุมวัน บางรัก และราชเทวี ซึ่งได้รับผลกระทบต่อการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2553 ในวันที่ 17 พ.ค.53 ว่า กทม.ได้กำหนดการเคลื่อนย้ายนักเรียนในพื้นที่สีแดง หรือ Red Zone ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและให้ปิดโรงเรียนในพื้นที่ 2 สำนักงานเขต ได้แก่ เขตปทุมวัน และเขตบางรัก รวมจำนวน 5 โรงเรียน ดังนี้ โรงเรียนวัดปทุมวนาราม ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพการบัญชี กำหนดเปิดเรียนวันที่ 17 พ.ค.53 โรงเรียนชัยมงคล ระดับชั้นประถมศึกษาย้ายไปเรียนที่โรงเรียนปทุมวัน และระดับมัธยมศึกษาย้ายไปเรียนที่โรงเรียนสวนหลวง กำหนดเปิดเรียนวันที่ 17 พ.ค.53 ในส่วนของโรงเรียนสระบัว ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนวัดดวงแข โรงเรียนสวนลุมพินี ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาโรงเรียนที่เหมาะสม และโรงเรียนวัดหัวลำโพง ได้กระจายนักเรียนระดับชั้น ป.1 ไปเรียนโรงเรียนวัดแก้วแจ่มฟ้า ระดับชั้น ป.2 ย้ายไปเรียนโรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม ระดับชั้นป.3-5 ย้ายไปเรียนโรงเรียนวัดม่วงแค และระดับชั้น ป.6 ย้ายไปเรียนโรงเรียนสวนพลู ได้เลื่อนกำหนดเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 1 มิ.ย.53 ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงจากที่กำหนดไว้ กทม.จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป หรือติดตามข่าวสารทางเว็บไซต์กรุงเทพมหานคร www.bangkok.go.th หรือ สายด่วนกทม. โทร. 1555

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของโรงเรียนโดยรอบพื้นที่การชุมนุม หรือ Yellow Zone ซึ่งเป็นโรงเรียน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบต่อการเรียนการสอน และการเดินทางไปโรงเรียน จำนวน 10 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนปลูกจิต โรงเรียนวัดบรมนิวาส โรงเรียนวัดดวงแข สังกัดสำนักงานเขตปทุมวัน โรงเรียนวัดม่วงแค โรงเรียนวัดสวนพลู โรงเรียนวัดแก้วแจ่มฟ้า โรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม สังกัดสำนักงานเขตบางรัก โรงเรียนวัดดิสหงสาราม โรงเรียนวัดทัศนารุณสุนทริการาม และโรงเรียนกิ่งเพชร สังกัดสำนักงานเขตราชเทวี กทม.ได้จัดทำแผนรักษาความปลอดภัยภายนอกโรงเรียน และเส้นทางการเดินทางสู่โรงเรียน โดยได้รับความร่วมมือจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักเทศกิจ และสำนักงานเขต โดยจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองในการนำบุตรหลานเข้าเรียนตามปกติในช่วงเปิดภาคเรียน