นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2553 ของบริษัทและบริษัทย่อย สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2553 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้จำนวน 36.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 48.36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19.03 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรวมถึงการควบคุมการใช้น้ำมันให้มีประสิทธิภาพ การเลิกขายสินค้าให้บริษัทที่เกี่ยวข้องซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ และการให้บริการขนส่งกับลูกค้าใหม่ ได้แก่ การให้บริการขนส่งก๊าซ NGV ให้กับ บริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) หรือ PTT และการให้บริการขนส่งสารเคมีไปประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับรายได้รวมงวดไตรมาส 1/2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 164.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดบัญชีเดียวกันของปี 2552 ประมาณ 60.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36.84 % โดยมาจากรายได้จากบริการขนส่งสินค้า จำนวน 136.15 ล้านบาท คิดเป็น 82.87% ของรายได้รวม เพิ่มจากปีก่อน 58.26 ล้านบาท หรือเพิ่ม 42.79% เนื่องจากบริษัทได้ให้บริการขนส่งเพิ่มขึ้น โดยเป็นการรับรู้รายได้จากบริการขนส่งก๊าซ NGV ให้กับ PTT ซึ่งมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 34.32% ของรายได้รวม,รายได้จากบริการจัดเก็บและกระจายสินค้า และรายได้จากบริการ
บริหารงานขนส่ง จำนวน 21.52 ล้านบาท คิดเป็น 13.10% ของรายได้รวม ลดลงจากปีก่อน 1.86 ล้านบาท หรือ ลดลง 8.64% เนื่องจาก รายได้จากบริการจัดเก็บและกระจายสินค้าลดลงเป็นส่วนใหญ่ ส่วนรายได้จากการขายสินค้ามีจำนวน 1.91 ล้านบาท คิดเป็น 1.16% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.09 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2553 ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ จากการที่บริษัทยังคงมีการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายการให้บริการขนส่ง และเข้าประมูลงานขนส่งสินค้าเชื้อเพลิง พลังงาน และสารเคมี และวัตถุอันตราย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสดีของบริษัท' นายเกียรติชัยกล่าว
ส่วนทิศทางผลประกอบการไตรมาส 2/2553 คาดว่ารายได้น่าจะออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2553 เนื่องจากบริษัทได้ทำสัญญาให้บริการในระยะยาว โดยเฉพาะการให้บริการขนส่ง NGV ของ PTT ที่ทำให้รายได้ของบริษัทมีความมั่นคงในระดับสูง อีกทั้งยังคงมีการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขากล่าวต่อถึง แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ว่า บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 10-15% เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมียังคงขยายตัวได้ดี พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านรายใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในอนาคต
อย่างไรก็ตามล่าสุดบริษัทเป็นผู้ได้รับงานประมูลงานขนส่งก๊าซ NGV พื้นที่ภาคเหนือ (สถานีแก่งคอย) กับ บมจ.ปตท.โดยมีกำหนดสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ปี มูลค่าสัญญาประมาณ 1 พันล้านบาท และจะเริ่มงานภายในเดือนพฤษภาคม 2553 นี้
เขากล่าวต่อถึง แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ว่า บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 10-15% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่ทำได้ 586.53 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมี ยังคงขยายตัวได้ดี พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านรายใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในอนาคต