ซอสหอยนางรมเมกาเชฟ โดดเด่นในเรื่องความเป็นซอสหอยนางรมเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ผลิตขึ้นจากหอยนางรมแท้ 100% โดยผ่านการคิดค้น และทดลองอย่างพิถีพิถันกว่า 2 ปี ด้วยงบลงทุนรวม 10 ล้านบาท เพื่อให้ได้สูตรซอสหอยนางรมที่หอม อร่อย จากธรรมชาติแท้ ๆ ที่ว่า “เครื่องปรุงรสที่มีคุณภาพดีในระดับเดียวกับวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารนั้น จะช่วยเสริมให้รสชาติของอาหารดียิ่ง ขึ้น” โดยกลุ่มผู้บริโภคหลักของเมกาเชฟ คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงาน แม่บ้านสมัยใหม่ในเมือง และกลุ่มผู้รักสุขภาพ ที่เห็นความสำคัญของสุขภาพและคุณค่าของอาหารมาก่อนเรื่องราคา
แผนงานและงบประมาณประชาสัมพันธ์
เมกาเชฟ ลงทุนสำหรับการประชาสัมพันธ์เปิดตัวซอสหอยนางรมอย่างเป็นทางการ ที่จำนวนเงิน 5 ล้านบาท โดยมั่นใจว่ามีฐานผู้บริโภคในตลาดอยู่แล้วส่วนหนึ่งจากการนำร่องของผลิตภัณฑ์น้ำปลาเมกาเชฟ อีกทั้งซอสหอยนางรมได้วางจำหน่ายมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีในเบื้องต้น
สำหรับแผนการประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ จะเน้นที่การให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติแท้ๆ การที่ผู้บริโภคได้รับประทานสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่ายการนั้น ก็จะส่งผลดีต่อร่ายกาย ไม่ทำให้เกิดผลข้างคียงหรือโรคแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นจากการบริโภคสารเคมีต่างๆ ผ่านทางสื่อประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้รักสุขภาพ ทั้งนิตยสารสุขภาพต่าง ๆ ข่าวแจก หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และรายการโทรทัศน์ อาทิ รายการครัวคุณหรีด ที่มีเจตนารมย์และกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคเดียวกันกับเมกาเชฟ ด้วยการนำเสนอรายการผ่านเชฟคุณภาพกับเมนูอาหารที่ให้ความสำคัญกับรสชาติและสุขภาพเป็นอันดับหนึ่ง
ทั้งหมดนั้น เพื่อมุ่งสู่ทิศทางการตลาดในปี 2553 ที่เมกาเชฟตั้งเป้าขยายผลให้ได้ถึง 30% หรือราว 100 ล้านบาท สำหรับยอดรวมของบริษัท ฯ โดยวัดจากแนวโน้มของผลประกอบการในรอบ 3-4 เดือนที่ผ่านมา (ไตรมาศแรกของปี 2553) ซึ่งเติบโตเกือบ 30% ในส่วนนี้ถ้านับเฉพาะยอดของซอสหอยนางรมจะอยู่ที่ 3%
ปัจจุบัน เมกาเชฟ มีส่วนแบ่งในตลาดน้ำปลาระดับพรีเมียมเป็นอันดับ 2 และตั้งเป้าขึ้นสู่อันดับหนึ่งภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ในส่วนของซอสหอยนางรม เมกาเชฟ มีส่วนแบ่งในตลาดระดับพรีเมียมอยู่ที่ 5% จากการเริ่มต้นทำตลาดด้วยขวดเล็กขนาด 240 กรัม ราคา 29 บาท มีขนาดเดียว สินค้ามีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำต่าง ๆ อาทิ เดอะมอลล์, ท็อป, คาร์ฟูร์ , โลตัส, จัสโก้ เป็นต้น
‘เมกาเชฟ’ ในตลาดต่างประเทศ
การเปิดตัวซอสหอยนางรมเมกาเชฟสู่ตลาดโลก ในฐานะเครื่องปรุงรสคุณภาพระดับพรีเมียม ที่ผลิตจากหอยนางรมสดแท้ธรรมชาติ 100% ได้ช่วยย้ำภาพลักษณ์ของการเป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพที่เอาใจใส่ในสุขภาพของผู้บริโภค ตามรอยทางความสำเร็จของน้ำปลาเมกาเชฟ ซึ่งมีฐานผู้บริโภคในต่างประเทศที่แข็งแรงแล้วในระดับหนึ่ง
“ซอสหอยนางรมนั้นมีพื้นฐานมาจากอาหารจีน ซึ่งอาหารจีนในตลาดโลกเป็นสิ่งที่แพร่หลายและได้รับความนิยมในประเทศตะวันตกมาเนิ่นนานแล้ว ความคุ้นเคยกับอาหารจีนนี่เองที่ทำให้ซอสหอยนางรมเข้าถึงตลาดนานาชาติได้ไม่ยากนัก ยิ่งจุดเด่นของซอสหอยนางรมเมกาเชฟคือ All Natural ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในระดับนานาชาติให้ความสำคัญ ซึ่งผลตอบรับเป็นไปด้วยดี และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ”
ซอสหอยนางรมเมกาเชฟ เริ่มเปิดตัวสู่ตลาดโลกครั้งแรกที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาดที่อาหารไทยและอาหารจีนได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และทำยอดขายจากเดือนตุลาคม 2552 ถึง เมษายน 2553 ราว 6 ล้านบาท และคาดหวังว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 20 ล้านบาทในสิ้นปี เป้าหมายถัดไปของเมกาเชฟคือมุ่งสร้างตลาดในอเมริกา โดยวางแผนทำยอดขายให้ได้เป็น 10 เท่าของตลาดออสเตรเลีย หรือราว 200 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าทั้งในเรื่องของจำนวนผู้บริโภค และความแพร่หลายของอาหารไทย นอกจากนี้เมกาเชฟยังวางเป้าหมายถัดไปที่ทวีปยุโรป โดยเริ่มที่ประเทศอังกฤษ โดยเมกาเชฟมีแผนเพิ่มปริมาณส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศให้ได้เป็น 50% ภายใน 3 ปี ซึ่งรวมถึงการสร้างตลาดใหม่ ๆ ในอีกกว่า 10 ประเทศ เพื่อให้เ มกาเชฟก้าวไปเป็นแบรนด์คุณภาพระดับสากลอย่างเต็มตัวในอนาคต
การันตีคุณภาพโดยเชฟระดับโลก
หลังจากที่เมกาเชฟได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับ Mr. David Thompson เชฟอาหารไทยระดับโลก เจ้าของรางวัล Michelin Star ชาวออสเตรเลีย ปรุงอาหารไทยต้นตำรับ เป็น Brand Ambassador เพื่อร่วมเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ “เมกาเชฟ” รวมถึงคุณค่า อันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยสู่ระดับสากล ที่ถือเป็นเครื่องการันตีคุณภาพของความเป็นเครื่องปรุงรสระดับพรีเมี่ยม และกับโครงการเปิดตัวหนังสือเล่มล่าสุดของ เชฟเดวิด ทอมป์ซัน ในอนาคตอันใกล้นี้ (ราวเดือนกรกฎาคม)