นายเชาวรัตน์ เชาวน์ชวานิล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารทรัพย์สิน บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เปิดเผยยอดการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ของ บสท. ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 53 ว่า บสท. สามารถทำยอดขายได้ถึง 4,500 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ 7,400 ล้านบาท ซึ่งนับว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจและคาดว่า บสท. จะสามารถบรรลุเป้าหมายและประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับปี 52 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การเมืองในระยะที่ผ่านมา นายเชาวรัตน์ กล่าวว่า ความสำเร็จดังกล่าวสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงมีอยู่ ประกอบกับ บสท. มีการวางแผนกลยุทธทางการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับนักลงทุนเฉพาะกลุ่ม การเดินสายจัด Road show ทั่วประเทศ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ โดยคัดเลือกทรัพย์สินที่มีศักยภาพจำหน่ายทรัพย์สินให้ในราคาพิเศษในลักษณะรัฐต่อรัฐ เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวม เป็นต้น ทั้งนี้ หากนับตั้งแต่ บสท. เปิดดำเนินการในปี 2544 บสท. สามารถจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายแล้วประมาณ 55,000 ล้านบาท ปัจจุบัน บสท.ยังเหลือทรัพย์สินรอการขาย (NPA) อีกกว่า 10,000 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 80,000 ล้านบาท และยังจะมีทรัพย์สินใหม่เข้ามาในช่วงปลายปีอีก 15,000 ล้านบาท จึงทำให้ บสท. มีภารกิจเร่งด่วนในการจำหน่าย NPA ให้มากที่สุด ก่อนที่จะจำหน่ายทรัพย์สินส่วนที่เหลือให้แก่บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ หรือ บสก. (BAM) และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ บสส. (SAM) ก่อนที่จะยุบเลิกการดำเนินงานของ บสท.ในวันที่ 8 มิถุนายน 2554
สำหรับการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในไตรมาส 2 นี้ บสท. จัดแคมเปญ Shock Price โดยใช้กลยุทธ์ในการคัดเลือกทรัพย์สินเด่นซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศที่มีมูลค่าตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 260 รายการ มูลค่ารวม 51,767 ล้านบาท พร้อมปรับลดราคาลงจากที่เคยเสนอขายครั้งที่ผ่านมา เพื่อดึงดูดและกระตุ้นความสนใจของนักลงทุน ความน่าสนใจของราคาทรัพย์สินที่ปรับลดลงมาจากราคาเดิมกว่า 20-50% ของทรัพย์แต่ละชิ้นที่ บสท. คัดมาจัดแคมเปญ Shock Price ในครั้งนี้ นอกเหนือจากเป็นทรัพย์เด่นที่ติดอันดับความนิยมและความสนใจของนักลงทุนจำนวนมากแล้ว ยังมีทรัพย์สินที่เป็นทรัพย์ใหม่ซึ่ง บสท. เพิ่งได้รับโอนเข้ามาและยังไม่เคยประกาศขายมาก่อน จึงนับว่าเป็นโอกาสดีที่สุดของนักลงทุนและเป็นครั้งแรกที่ บสท. จัดมหกรรมจำหน่ายทรัพย์สินในราคาพิเศษเช่นนี้ จึงอยากให้นักลงทุนรีบตัดสินใจ นอกจากนี้ ผู้ซื้อทรัพย์สิน บสท. ยังได้รับสิทธิประโยชน์ ในการได้รับการยกเว้นค่าภาษี และค่าธรรมเนียมการโอนตามกฏหมาย จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในขณะนี้
นายเชาวรัตน์กล่าวว่า ทรัพย์สินที่ บสท. ได้คัดเลือกเพื่อนำมาจัดแคมเปญ Shock Price ในครั้งนี้ ประกอบด้วยทรัพย์สินประเภทที่ดินเปล่าเกือบ 60% ส่วนที่เหลือเป็นทรัพย์สินประเภทที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง อาคารพาณิชย์ โครงการที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรม โดยแบ่งเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 109 รายการ มูลค่า 32,955 ล้านบาท ในส่วนภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคตะวันออก 45 รายการ มูลค่ารวม 6,817 ล้านบาท ภาคกลาง 45 รายการ มูลค่ารวม 6,047 ล้านบาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 37 รายการ มูลค่ารวม 3,562 ล้านบาท ภาคเหนือ 17 รายการ มูลค่ารวม 1,645 ล้านบาท และภาคใต้ 7 รายการ มูลค่ารวม 738 ล้านบาท
สำหรับทรัพย์สินที่เป็นไฮไลท์ อาทิ ที่ดินใจกลางเมืองพร้อมอาคารโรงแรม 17 ชั้น ติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ใกล้แยกเอกมัย เนื้อที่กว่า 1 ไร่ ราคา Shock Price 252,168,000 บาท จากราคาเดิม 375,000,000 บาท ที่ดินเปล่า 15 ไร่ ติดถนนศรีนครินทร์ ใกล้ซอยลาซาล ราคา Shock Price 275,860,000 บาท จากราคาเดิม 337,161,000 บาท ที่ดิน 442 ไร่ พร้อมโครงการมินิแฟคตอรี่ ติดถนนบางปะกง-ฉะเชิงเทรา ราคา Shock Price 685,460,000 บาท จากราคาเดิม 810,050,000 บาท ที่ดินกว่า 8 ไร่พร้อมอาคารห้างสรรพสินค้า 4 ชั้น ติดถนนรามคำแหง ใกล้แยกลำสาลี ราคา Shock Price 356,200,000 บาท จากราคาเดิม 610,064,000 บาท ที่ดินสวยผืนใหญ่ เนื้อที่ 119 ไร่ ติดถนนเพชรเกษม ใกล้ชายหาดชะอำ ราคา Shock Price 380,216,000 บาท จากราคาเดิม 427,743,000 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้ บสท. กำหนดจัดประมูลทรัพย์สินในแคมเปญ Shock Price ด้วยวิธีการยื่นซองประมูลในวันที่ 18 มิถุนายน 2553 ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าประมูลทรัพย์สินได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม—15 มิถุนายน 2553 ทั้งนี้ บสท.ได้จัดเตรียมข้อมูลทรัพย์สินและ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ศักยภาพของทรัพย์สิน รวมทั้งให้คำปรึกษาถึงความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2265-5100 หรืออีเมล์ [email protected],th