นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์) ได้มอบนโยบายให้กรมบัญชีกลางเร่งรัดเสนอกระทรวงการคลังให้ประกาศกำหนดสำนักงานในพื้นที่พิเศษให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ กรมบัญชีกลางจึงเร่งรัดและเสนอประกาศกำหนดสำนักงานในพื้นที่พิเศษประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 ไปจำนวน 1,836 แห่งก่อน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลงนามในประกาศไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ส่วนสำนักงานที่ยังมีข้อมูลไม่ชัดเจนก็ให้ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน บัดนี้ กรมบัญชีกลางได้ตรวจสอบข้อมูลในสำนักงานที่เหลือ จำนวน 80 แห่ง ในเขตพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดตาก จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดน่าน และจังหวัดเชียงใหม่ ตามหลักเกณฑ์เรื่องพื้นที่โอบล้อมแล้ว ปรากฎว่า มีสำนักงานที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์เรื่องพื้นที่โอบล้อมและมีคะแนนรวมผ่านเกณฑ์การกำหนดสำนักงานในพื้นที่พิเศษ จำนวน 65 แห่ง ในเขตพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก และจังหวัดนครราชสีมา จึงได้นำเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาประกาศสำนักงานทั้ง 65 แห่งดังกล่าว เป็นสำนักงานในพื้นที่พิเศษเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลงนามในประกาศแล้ว เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 และกระทรวงการคลังได้แจ้งเวียนให้ส่วนราชการทราบและถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค. 0422.3/ว 260 ลงวันที่ 29 เมษายน 2553
นายพงษ์ภาณุ กล่าวต่อไปว่า การประกาศกำหนดสำนักงานในพื้นที่พิเศษเพิ่มเติมดังกล่าว มีผลให้สำนักงานที่ได้รับการประกาศกำหนดเป็นสำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,901 แห่ง ในพื้นที่ 42 จังหวัด ซึ่งข้าราชการและลูกจ้างประจำที่ปฏิบัติงานประจำหรือลักษณะประจำอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวที่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ (สปพ.) คนละ 1,000 บาท ต่อเดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 ถึงเดือนกันยายน 2553 ประมาณ 12,539 คน และใช้เงินงบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 150,468,000 บาท