“คือตัวมาริโอ้เป็นภาพที่อยากได้มาตั้งแต่แรกเลย มาตั้งแต่ยังไม่มีบท มีแต่โครงก็คิดถึงมาริโอ้แล้ว เราก็มองถึงตัวละครที่ว่าถ้าโผล่ขึ้นมาแล้วผู้หญิงมองก่อนเลย ความป๊อปปูล่าให้คนเขาชื่นชอบได้ ถ้าเป็นผมไปเดินก็คงไม่มีใครมอง (หัวเราะ) คือมาริโอ้มองแวบแรกก็จะรู้สึกว่าหล่อ หน้าตาดี แล้วในวัยเท่าๆ กันมันก็มีไม่กี่คนที่ดูแล้วหล่อเทพอ่ะ คือเราไปเจอเขาตั้งแต่แรกแล้ว เราก็เล่าบทบาทให้เขาฟัง เขาก็บอกว่าบทบาทแบบนี้เป็นบทที่เขาไม่เคยรับมาก่อน เซอร์นิดๆ ทะเล้นหน่อยๆ เขาก็บอกว่า อาจะให้โอ้เล่นอย่างไรบอกเลยนะครับ จะให้เล่นใหม่ก็บอกได้เลย โอ้เล่นได้ทุกอย่าง เพราะเขาอยากเปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวเองอยู่แล้ว”
ทางด้านหนุ่ม “มาริโอ้” ก็พูดถึงความรู้สึกและบทบาทใหม่ล่าสุดของตัวเองว่า
“เรื่องนี้รับบทเป็นโชน เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี แล้วก็เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน และค่อนข้างมีอารมณ์เป็นศิลปิน โชนมีปมอยู่อย่างนึง คือพ่อเป็นนักกีฬาเขต เป็นนักกีฬาประจำจังหวัด เล่นฟุตบอลเก่งมาก แต่มีปมตรงที่พ่อเตะลูกโทษพลาด โชนก็เลยติดมาจากพ่อก็คือกลัวจะทำให้ทุกคนผิดหวัง ก็เลยถึงจะเล่นบอลเก่งแค่ไหน อยู่ทีมโรงเรียนก็ไม่กล้าเตะจุดโทษครับ คือในตัวละครโชนจะเป็นเหมือนว่าเป็นทั้งนักกีฬาที่เก่ง และเป็นคนที่บุคลิกดี แล้วก็มีอารมณ์ที่เป็นศิลปินแบบที่สาวๆ ชอบครับ ตอนอ่านบทเรื่องนี้นะครับก็รู้สึกว่า เป็นหนังที่กุ๊กกิ๊กน่ารักครับ เหมือนได้กลับไปหาความทรงจำที่เราเคยผ่านมา และยังประทับใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตในช่วงนั้น โอ้เองก็เคยเจอเคสแบบนี้ คือแบบว่าเหมือนตอนมัธยมเราแอบชอบใครคนนึง แล้วเราก็เหมือนทำทุกอย่างเพื่อให้เขามาชอบเรา หรือว่าให้เขาหันมาสนใจเราบ้าง”
ใครที่รอดูผลงานของหนุ่มสุดฮ็อต “มาริโอ้ เมาเร่อ” คงอดใจรอกันอีกไม่นาน อย่าลืมติดตามเรื่องราวที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพลังอันยิ่งใหญ่ของ “ความรัก” ใน “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” 26 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์