นายชุมพล ฐิตยารักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ภาวะเรือนกระจกทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ซึ่งประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบนี้ด้วยเห็นได้จากปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งได้ครอบคลุมกว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศ ในบางพื้นที่ขาดแคลนทั้งน้ำเพื่อทำการเกษตรและเพื่ออุปโภคบริโภค กระทรวงพลังงานตระหนักถึงบทบาทที่จะสามารถช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ดังกล่าวได้ จึงได้จัดโครงการ “พลังงานช่วยภัยแล้ง” เพื่อสนับสนุนน้ำมันดีเซลให้พื้นที่ประสบภัยแล้งนำไปใช้ในการขนส่งน้ำหรือสำหรับสูบน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค
กระทรวงพลังงานได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากรัฐวิสาหกิจ และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) ในการบริจาคน้ำมันดีเซลจำนวน 1.5 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 45 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งทั่วประเทศ
สำหรับจังหวัดเลยซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เผชิญปัญหาภัยแล้ง ทางกระทรวงพลังงานได้จัดสรรบัตรเติมน้ำมันดีเซลให้กับพื้นที่ใน 10 อำเภอ 49 ตำบล จำนวน 48,667 ลิตร คิดเป็นมูลค่า 1.46 ล้านบาท โดยบัตรเติมน้ำมันดีเซลดังกล่าวผู้แทนพื้นที่ที่รับมอบสามารถนำไปใช้ได้ที่สถานีบริการน้ำมัน ของปตท. มีกำหนดระยะเวลาในการใช้บัตรได้ถึง 31 ก.ค. 2553
ทั้งนี้ คาดว่าความช่วยเหลือเร่งด่วนในการสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลให้กับพื้นที่ประสบภัยแล้งครั้งนี้ของกระทรวงพลังงาน และ 4 องค์กรด้านพลังงานจะมีส่วนช่วยในการบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประสบภัยแล้งในจังหวัดต่างๆ ได้อีกช่องทางหนึ่ง นอกเหนือจากความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง