ม.อ. ได้รับเลื่อนอันดับมหาวิทยาลัยคุณภาพในเอเชีย ลั่นเดินหน้าพัฒนาวิชาการท้องถิ่นต่อเนื่อง

รองศาสตราจารย์ ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า จากการประกาศผลการจัดอันดับคุณภาพของมหาวิทยาลัยในเอเชีย หรือ Asian university rankings- top 200 โดย Quacquarelli Symonds (QS) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจในด้านการศึกษาในประเทศอังกฤษ ปรากฏว่า ในปี 2553 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีอันดับที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 101 ในระดับเอเชีย จากที่เคยได้อันดับที่ 109 ในปี 2552 โดยมีมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับจำนวนทั้งสิ้น 7 แห่ง

ทั้งนี้ แม้ว่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะอยู่ในลำดับที่ 5 เมื่อเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยไทยในภาพรวม แต่เมื่อมองเฉพาะกลุ่มสาขาวิชาแล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะอยู่ในลำดับที่ 3 ในกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพและชีวการแพทย์ และลำดับที่ 4 ในกลุ่มสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและวิศวกรรม และ กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ

สำหรับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของ QS จะใช้เกณฑ์ 4 ด้าน คือ คุณภาพของงานวิจัย คุณภาพของการสอน ภาวะการได้งานทำของบัณฑิต และความเป็นนานาชาติ โดยได้ให้น้ำหนักด้านคุณภาพของงานวิจัยไว้ถึง 60%

อธิการบดี ม.อ. กล่าวว่า การติดอันดับโลกของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการประชาสัมพันธ์คุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัยสู่นานาประเทศ โดยมหาวิทยาลัยได้ตั้งจุดมุ่งหมายว่าจะเป็นศูนย์กลางการศึกษาในระดับ ASEAN และเป็น World Class University ใน 300 อันดับแรกของโลกภายในปี 2565 ด้วยการพัฒนาคุณภาพทางวิชาการและบุคลากรให้มีความพร้อมสู่จุดมุ่งหมายนั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ในโลกปัจจุบันการพัฒนาสติปัญญาความฉลาดรอบรู้ให้แก่ประชากร จะต้องดำเนินการไปพร้อมๆ กับความรับผิดชอบที่กว้างขึ้น ดังนั้น เป้าหมายแท้จริงของ ม.อ. จึงอยู่ที่การเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณค่า เป็นที่ศรัทธาของคนในท้องถิ่นและสาธารณะ เป็นสมบัติอันล้ำค่าของสังคมไทย โดยเป็น “มหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์แห่งมวลมนุษย์”

“ถึงแม้ว่า เราจะมีเป้าหมายอยู่ที่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชีย และขึ้นสู่การยอมรับในระดับโลกในระยะต่อไป แต่อนาคตที่แท้จริงของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คือผู้กล้าที่จะยืดอกขึ้นรับภาระหน้าที่ หรือความท้าทายในเชิงพื้นที่ของภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนให้ทะเลสาบสงขลา เพื่อเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของพื้นที่ การสร้างความเป็นเลิศในเรื่องยางพาราเพื่อที่ชุมชนจะมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงเรื่องของปาล์มน้ำมัน อาหารทะเลและฮาลาล การท่องเที่ยว ความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สังคมพหุวัฒนธรรมและสันติสุข รวมทั้งอิสลามศึกษา” รองศาสตราจารย์ ดร.บุญสมกล่าว

เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดยบริษัทมาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ (ในนามมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์)

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม : พิภพ ฆ้องวง (ท๊อป)

โทร. 0-2248-7967-8 ต่อ 118 หรือ 08-1929-8864

e-mail address : [email protected] เว็บไซต์ : www.mtmultimedia.com