นายอภิชาติ อินทร์พงษ์พันธุ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกระแสตอบรับของหมู่บ้านอีสาน ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2553 ว่า “ การจัดกิจกรรมดังกล่าวนับเป็นการประชาสัมพันธ์จุดเด่นด้านการท่องเที่ยวภาคอีสานภายใต้แนวคิดอีสานแหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม ให้ประชาชนได้รับรู้ ซึ่งสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งครอบครัว โดยมี ไดโนเสาร์ เป็นสินค้าท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชนที่รักการเรียนรู้และผจญภัย ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ที่เน้นการเดินทางท่องเที่ยวแบบ Slow Travel ซึ่งมีเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยบูรพาจารย์แห่งอีสาน ที่ตอบรับความต้องการของนักเที่ยวกลุ่มนี้ ซึ่งในปีนี้ ททท. ภูมิภาคอีสานจะมุ่งเน้นทิศทางการตลาดที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเฉพาะมากขึ้น ทั้งการจัดขบวนคาราวาน กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มผู้สูงอายุ ฯลฯ”
สำหรับการจัดกิจกรรมหมู่บ้านอีสาน ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย นั้น นายอภิชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ได้รับกระแสตอบรับทั้งจากผู้ประกอบการในภูมิภาคอีสานที่สนใจเข้าร่วมจำหน่ายสินค้าและแพคเกจท่องเที่ยวในงาน และสำหรับประชาชนทั่วไปที่เข้าชมงานต่างชื่นชอบในแหล่งท่องเที่ยวและสินค้า อาหารพื้นบ้านอีสาน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการขุดค้นซากไดโนเสาร์กันอย่างสนุกสนาน โดยตลอดระยะเวลา 5 วัน ที่จัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยมีเงินสะพัดในงานไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท โดยเฉพาะช่วง 2 วันสุดท้ายที่มียอดขายสินค้าบริการและจำหน่ายแพคเกจมูลค่าสูงกว่า 3 วันแรกที่จัดงาน”
นอกจากนี้ ในส่วนของการส่งเสริมท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีพรมแดนติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านนั้น
ททท. ร่วมกับ องค์การท่องเที่ยวแห่งประเทศลาว จัดกิจกรรมขบวนคาราวานไปเลยลุยลาว เพื่อบุกเบิกเส้นทางท่องเที่ยวชายแดนเลย — ไชยะบุรี — หลวงพระบาง — วังเวียง — เชียงคาน เน้นกลุ่มผู้ขับรถ 4WD ระหว่างวันที่ 22 — 27 ก.ค. นี้ ซึ่งจะสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวชายแดนตลอดจนยอดเงินที่สะพัดได้เป็นอย่างดี และคาดว่าการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดของภูมิภาคอีสานที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องของ ททท. จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวและตัวเลขเงินสะพัดเป็นไปตามที่ ททท.ตั้งเป้าไว้ คือ ยอดนักเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวอีสาน 18 ล้านคน และยอดเงินสะพัด 40,000 ล้านบาท”
ด้านผู้ประกอบการในภูมิภาคอีสาน อาทิ ฟาร์มโชคชัย ซึ่งมาร่วมออกบูธในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย เปิดเผยว่า “ปีนี้มีผู้เข้าชมงานจำนวนมาก ในส่วนของฟาร์มโชคชัยนำเสนอกิจกรรมใน 2 ส่วนคือ แพคเกจท่องเที่ยว ตั้งเป้าไว้ที่ 80 แพคเกจ/วัน และที่พัก ตั้งเป้า 120 แพคเกจ/วัน เน้นการให้ส่วนลดและหากจ่ายเป็นเงินสดในงานจะได้ส่วนลดเพิ่ม 5 % ซึ่งกระแสตอบรับปีนี้ถือว่าดีแต่ลดลงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย โดยใน 2 วันสุดท้ายของงานมียอดซื้อแพคเกจสูงกว่าทุกวัน” ในส่วนของโกลเด้นแลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา เขาใหญ่ ที่เน้นกลยุทธ์แถมวันเข้าพัก และเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าเช่นกัน
สอบถามรายละเอียด ได้ที่
โทร. 02 682 9880