ปภ.เตือนน้ำในเขื่อนเหลือน้อย ชาวนาลุ่มน้ำเจ้าพระยาชะลอการปลูกข้าวนาปี

ศุกร์ ๑๘ มิถุนายน ๒๐๑๐ ๑๔:๒๗
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนเกษตรกรในจังหวัดภาคกลางบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานชะลอการปลูกข้าวนาปีออกไปก่อน เพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำเหลือน้อย ประกอบกับอาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงในระยะนี้

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ของประเทศ พบว่า อยู่ในภาวะวิฤตปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยฉพาะเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำ

ร้อยละ 32 และเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 36 แต่ต้องกันไว้ใช้สำหรับการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ในลำน้ำเป็นหลัก จึงไม่สามารถสนับสนุนน้ำเพื่อทำการเกษตรได้ และแม้ว่าระยะนี้จะมีฝนตกในหลายพื้นที่แต่ส่วนใหญ่ฝนตกในบริเวณพื้นที่ท้ายเขื่อน ทำให้ไม่มีน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนเพิ่มเติม รวมทั้งจากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยายังระบุอีกว่า ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม 2553 อาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำยาวนานมากยิ่งขึ้น ประกอบกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ได้ออกประกาศให้เลื่อนการทำนาปีในเขตชลประทานที่รับน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ แต่จากการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกข้าว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่า เกษตรกรในบางพื้นที่เริ่มหว่านข้าวทำนาปีบ้างแล้ว ซึ่งมีความเสี่ยงที่ต้นข้าวจะขาดแคลนน้ำในระยะเติบโต ส่งผลให้ข้าวยืนต้นตาย ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือนให้เกษตรกรในจังหวัดภาคกลางบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในเขตชลประทานที่รับน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ รวมถึงพื้นที่นอกเขตชลประทานชะลอการปลูกข้าวนาปีออกไปก่อน โดยเลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยแทน รวมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำ แผนการจัดสรรน้ำ สภาพอากาศ เพื่อจะได้วางแผนทำนาหรือปลูกพืชให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำในพื้นที่ ทั้งนี้คาดว่าเกษตรกรจะเริ่มเพาะปลูกได้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม 2553 เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายสภาวะอากาศในช่วงดังกล่าวว่าจะมีฝนตกกระจายเพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงสู่เขื่อนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สามารถจัดสรรน้ำสำหรับการทำนาและเพาะปลูกพืชได้ อย่างไรก็ตามปรากฎการณ์เอลนิโญ่ได้ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศของโลกค่อนข้างแปรปรวน ทำให้ไม่สามารถคาดหมายลักษณะอากาศได้อย่างชัดเจน จึงขอให้เกษตรกรติดตามสถานการณ์น้ำและสภาวะอากาศอย่างใกล้ชิดก่อนดำเนินการเพาะปลูกพืชหรือหว่านข้าวนาปี ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจาก

การขาดแคลนน้ำอุปโภค และบริโภค สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปภ.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ