ล่าสุดวันนี้ (18 มิ.ย.53) ราคาปิดตลาดสิงคโปร์น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 76.12 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 อยู่ที่ 86.22 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 88.44 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ค่าการตลาดรายวันอยู่ในระดับต่ำมาก โดยเหลือเพียง 55 สตางค์/ลิตร ดังนั้น ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดขึ้นลิตรละ 60 สตางค์ (เว้น E85) ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีก ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.53) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ราคาเป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E85 พลัส) 19.42
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E20 พลัส) 29.54
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 31.84
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 30.34
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 35.64
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 27.39
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 28.29
นายวิทยา กล่าวในตอนท้ายว่า เช่นกันกับทุกครั้งที่ผ่านมา ปตท. ได้พยายามอย่างดีที่สุดในการชะลอการขึ้นราคาขายปลีก แต่เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้น จนทำให้ค่าการตลาดอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้ค้ารายอื่นได้ปรับขึ้นราคาล่วงหน้าไปแล้วในวันนี้ (18 มิ.ย.53) ทั้งนี้ ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า ปตท. จะได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการดูแลราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และขอเชิญชวนให้ร่วมกันใช้พลังงานทดแทนทั้งแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซล รวมถึงวางแผนการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้น้อยลงแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนผลผลิตทางการเกษตร และลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศอีกด้วย
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2537 2164
โทรสาร 0 537 2171