นายภัคพงษ์ เปิดเผยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ผมขอขอบคุณที่สมาชิกสมาคมฯ ไว้วางใจเลือกผมเป็นนายกสมาคมกีฬาเพาะกายต่ออีก 1 สมัย เพื่อพัฒนากีฬาเพาะกายให้พัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป ภายใต้เป้าหมาย พัฒนากีฬาเพาะกายและฟิตเนสอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือการสร้างอันดับและผลงานในรายการการแข่งขันนานาชาติให้ดียิ่งขึ้นขึ้นไปอีก ซึ่งในปีนี้ทางสมาคมฯ มี อาทิ การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสรอบคัดเลือกภาคต่างๆ ทั่วประเทศ การแข่งขันเพาะกายชายชิงแชมป์เอเชีย และบอดี้ คลาสสิค ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน (2-7 สิงหาคม 2553) การแข่งขันชิงแชมป์ฟิตเนส และเพาะกายชายชิงแชมป์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ประเทศสิงคโปร์ (29 กันยายน — 4 ตุลาคม 2553) การแข่งขันเพราะกายชายชิงแชมป์โลก ที่เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย (3-8 พฤศจิกายน 2553) และการแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชี่ยน บีช เกมส์ ที่รัฐสุลต่าน ประเทศโอมาน (6-14 ธันวาคม 2553) โดยสมาคมฯ มั่นใจว่าจะสามารถนำเหรียญรางวัลมาอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังมีการจัดฝึกอบรมผู้ฝึกสอนกีฬาเพาะกาย และฟิตเนสระดับปฏิบัติการ ปี 2553 (24-25 สิงหาคม 2553) วัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความรู้ และพัฒนาคุณภาพทางด้านการฝึกสอนกีฬาเพาะกาย และฟิตเนสในสำหรับผู้ฝึกสอนในระดับกลางถึงระดับสูง ให้ได้รับทราบถึงการพัฒนาการด้านการฝึกสอนหัวข้อต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกันนี้จากมติการประชุม ทางสมาคมฯ จะดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย” ในลำดับต่อไป”
ทางด้าน สิทธิ เจริญฤทธิ์ หรือ “โอ๋” นักกีฬาเพาะกายหนุ่มวัย 37 ปี ให้เหตุผลถึงการประกาศอำลาวงการการแข่งขันกีฬาเพาะกายว่า “ในฐานะนักกีฬาเพาะกาย ผมคิดว่า ณ วันนี้ ผมเดินทางมาถึงจุดอิ่มตัวและประสบความสำเร็จ ก้าวมาสู่จุดสูงสุดของการเป็นนักกีฬาแล้ว นั่นคือการได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ และเป็นตัวแทนไปสร้างชื่อเสียงให้นักกีฬาเพาะกายจากประเทศไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลกฐานะเจ้าของผลงานรางวัลแชมป์โลกกีฬาเพาะกาย 3 สมัย”
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมได้ทุ่มเท หมั่นฝึกฝน ฝึกซ้อมกับการทำผลงานให้ดีที่สุด ในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศทุกรายการ ทุกรางวัลที่ผมได้รับ ทั้งรางวัลแชมป์โลก 3 สมัย เหรียญทองกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 15 เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 23 และครั้งที่ 24 และเหรียญทอง เอเชี่ยน บีช เกมส์ ล้วนเป็นรางวัลที่ทำให้ผมภูมิใจกับการเป็นนักกีฬาเพาะกาย และภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้มีโอกาสร้องเพลง ชาติไทยในเวทีระดับโลก ผมขอขอบคุณท่านนายกสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน นายภัคพงษ์ เกรียงศักดิ์ คณะกรรมการสมาคมฯ ผู้ฝึกสอน ที่ช่วยสนับสนุนและทุ่มเทให้กีฬาเพาะกายสามารถสร้างผลงานในหลายๆ เวที และมีผลงานความก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกันนี้ ผมขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้ให้การสนับสนุน นำเสนอข่าวสารให้วงการกีฬาเพาะกายเป็นที่รู้จักแพร่หลาย แม้ผมจะวางมือจากการเป็นนักกีฬา แต่ผมจะยังอุทิศตัวให้กับสมาคมฯ ต่อไป ด้วยการช่วยเหลืองานต่างๆ พร้อมทั้งเป็นโค้ชให้นักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย และทำธุรกิจครอบครัว คือ พาวเวอร์ โซน ยิม ที่ให้บริการยิมและฟิตเนส เซ็นเตอร์ อีกด้วย”
ทางด้าน นายภัคพงษ์ เกรียงศักดิ์ นายกสมาคมกีฬาเพาะกายแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สมาคมฯ เสียดาย ในความสามารถของสิทธิ ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของนักกีฬาเพาะกายที่เป็นเจ้าของผลงานแชมป์โลกเพาะกายถึง 3 สมัย ซึ่งยังไม่มีใครทำได้ แต่เมื่อสิทธิมีความมุ่งมั่นที่จะอำลาวงการเพื่อผันตัวเองไปเป็นโค้ชให้กับนักกีฬาเพาะกายรุ่งน้องๆ ทางสมาคมฯ ก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด”
อนึ่ง นายภัคพงษ์ เกรียงศักดิ์ เป็นนักธุรกิจชาวอังกฤษ และเข้ามาพำนักและทำธุรกิจในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 50 ปี จนได้รับสัญชาติไทยและมีชื่อภาษาไทย นายภัคพงษ์ให้การสนับสนุนกีฬาเพาะกายมากว่า 20 ปี และเริ่มเข้ามาบริหารงานในฐานะนายกสมาคมกีฬาเพาะกายแห่งประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2545
สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
ณณัฐชลัญช์ สุวรรณพันชู อีเมล์ [email protected]
เกษมศรี ยูเฟมิโย อีเมล์ [email protected]
บริษัท ธนบุรินทร์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด
โทรศัพท์ 0 2 231 6158-9 โทรสาร 0 2231 6230