นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางรัก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร โดยมีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางทยา ทีปสุวรรณ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนัก ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 3-6 สภากรุงเทพมหานคร
ดันผู้บริหารกทม.เร่งเจราจา BTS ลดราคาค่าบริการให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ
ในที่ประชุมคณะกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตหลายประการถึงการดำเนินงานของสำนักการจราจรและขนส่ง ควรเร่งการเจรจาเพื่อผลักดันในการพิจารณาร่วมกับ BTS เรื่องการลดราคาค่าใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับคนเหล่านี้ อีกทั้งเรื่องการดำเนินงานเกี่ยวกับโครงการรถ BRT นั้น ควรดำเนินการแยกเส้นทางระหว่างรถ BRT กับรถไฟฟ้า BTS ให้ชัดเจน ไม่ควรทำให้มีเส้นทางที่ซ้ำซ้อนกัน อันจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ รวมถึงโครงการก่อสร้างทางเดินยกระดับ (Sky Walk) ที่เชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า BTS นั้น ควรมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบข้อมูลว่ามีการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าจุดใดบ้าง รวมทั้งควรมีการดำเนินงานก่อสร้างให้เสร็จทันตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการใช้บริการทางเดินลอยฟ้า (Sky Walk) และบริการรถไฟฟ้า BTS ยิ่งขึ้น ทั้งการจัดสัญญาณไฟเตือนรวมถึงทางม้าลายเพื่อให้รถหยุดหรือรถชะลอความเร็ว ในจุดสำหรับข้ามถนนของประชาชนนั้น ควรดำเนินการจัดให้อยู่ห่างกันพอสมควรตามความเหมาะสม เนื่องจากมีการวางจุดเหล่านี้มากและถี่เกินไป ทำให้รถต้องหยุดบ่อยๆ และเป็นต้นเหตุทำให้จราจรติดขัดมากขึ้น
เสนอเจราจารัฐบาลให้โควต้ากองฉลากสนับสนุนเงินพัฒนากรุงเทพมหานคร
พร้อมกันนี้ทางคณะกรรมการได้ตั้งข้อสังเกต ถึงการใช้จ่ายงบประมาณของกรุงเทพมหานครในด้านระบบคมนาคม ซึ่งเป็นจำนวนเงินมหาศาล ผู้บริหารควรหารายได้เพิ่มเข้าคลังโดยการเสนอรัฐบาลให้โควต้ากองฉลากเพื่อสนับสนุนเงินเพื่อมาดำเนินการในโครงการต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนากรุงเทพมหานครและดูแลประชาชนร่วมกัน
แนะจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ในส่วนของบางโครงการของสำนักการจราจรและขนส่ง ที่เกิดความล่าช้าและไม่มีความคืบหน้า ควรมีความเข้าใจในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะผู้บริหารได้มอบหมายไว้ รวมถึงควรจัดการฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น เพื่อพัฒนาบุคลากรให้เกิดความชำนาญและมีประสิทธิภาพรองรับงานที่ใช้ความรับผิดชอบสูง เนื่องจากปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีนโยบายมุ่งเน้นในการแก้ปัญหาจราจรเป็นหลัก รวมทั้งปัญหาน้ำท่วม อุบัติเหตุบนท้องถนน การจัดระเบียบทางเท้า อาชญากรรม จากภารกิจที่อยู่ในส่วนความรับผิดชอบของสำนักการจราจรและขนส่ง ฉะนั้นผู้บริหารควรดำเนินงานอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา และดำเนินงานไม่ให้เกิดความล่าช้าในโครงการ พร้อมทั้งควรว่าจ้างผู้รับเหมาที่มีความรับผิดชอบและมีประสบการณ์เข้ามาดำเนินงานอีกด้วย
ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตการใช้จ่ายงบประมาณของกรุงเทพมหานครกันอย่างกว้างขวาง พร้อมมอบหมายให้ทางหน่วยงานที่ได้รับการพิจารณานำเอกสารเพิ่มเติมมายื่นให้ทางคณะกรรมการฯ เพื่อการพิจารณากลั่นกรองรายละเอียดในการประชุมครั้งต่อไปด้วย