อย่างไรก็ตาม นายมาโนช กล่าวด้วยว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ผู้เลี้ยงไก่ไข่ขาดทุนมาโดยตลอดเพราะผลผลิตมากเกินความต้องการบริโภค คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ หรือ EGG Broad และเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ ได้พยายามร่วมกันหาทางแก้ปัญหาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ด้วยมาตรการต่างๆ มากมาย อาทิ การควบคุมปริมาณการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ การปลดแม่ไก่แก่ยืนกรงให้เร็วขึ้น หรือ การส่งออกเพื่อระบายไข่ส่วนเกิน ทั้งนี้เพื่อรักษาสมดุลของอุปสงค์อุปทานของไข่ไก่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นำมาซึ่งเสถียรภาพราคาไข่ไก่ หลังเกษตรกรต้องประสบภาวะขาดทุนติดต่อกันมา 3 ปี ความพยายามดังกล่าวเพิ่งจะเริ่มสัมฤทธิ์ผลในปีนี้ แต่กลับต้องเจอกับสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น คือสภาวะโรคร้อน และโรคระบาด
ปัจจุบันปริมาณแม่ไก่ไข่ยืนกรงทั่วประเทศเหลืออยู่ประมาณ 35-36 ล้านตัว ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 20% มีผลให้ปริมาณไข่ไก่ทั่วประเทศในขณะนี้อยู่ที่ 25-26 ล้านฟองต่อวัน จาก 28-30 ล้านฟองต่อวัน ซึ่งอาจส่งกระทบโดยตรงต่อราคาไข่ไก่ตามหลักอุปสงค์อุปทานและกลไกตลาด แต่จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ที่จะมีอาหารธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น และด้วยไข่ไก่เป็นสินค้าเกษตรที่มีช่วงวงจรเวลาสั้น ความเสียหายของผลผลิตไข่ไก่จึงจะลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติในที่สุด