ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่เดินจำหน่ายสลากกินแบ่ง จะเป็นผู้ค้าปลีก แต่บางรายก็เป็นสมาชิกของตัวแทนจำหน่ายที่เป็นนิติบุคคล สมาคม มูลนิธิ องค์กรต่างๆ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบสมาชิกเหล่านั้น ขายเกินราคา ในครั้งแรก จะตัดโควตาสลากเท่ากับจำนวนที่สมาชิกคนนั้นรับไปจำหน่าย แต่หากยังพบการจำหน่ายเกินราคาของผู้นั้นอีกเป็นครั้งที่สอง สำนักงานสลาก ฯ จะตัดโควตาครึ่งหนึ่งของจำนวนสลากที่ตัวแทนจำหน่ายของสมาชิกนั้นได้รับไปจำหน่าย และ ถ้ายังไม่เข็ดหลาบ พบการจำหน่ายเกินราคาของสมาชิกรายเดิมเป็นครั้งที่สาม จะดำเนินการตัดโควตาทั้งหมดและยกเลิกสัญญาของนิติบุคคล สมาคม มูลนิธิหรือองค์กรที่ผู้จำหน่ายสลากเกินราคาสังกัดเป็นสมาชิก
ส่วนการจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น นายวันชัย ฯ กล่าวว่า สำนักงานสลาก ฯ จะทำการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย หรือสมาชิกของตัวแทนจำหน่าย ที่พบการกระทำผิดเป็นครั้งแรก จะมีหนังสือเตือน หากพบอีกเป็นครั้งที่สอง จะตัดโควตา ร้อยละ ๒๕ ของจำนวนสลากที่ตัวแทนจำหน่ายแต่ละประเภทได้รับการจัดสรร ถ้ายังถูกจับกุมเป็นครั้งที่ ๓ จะถูกตัดโควตา ร้อยละ ๓๕ และสุดท้ายหากถูกจับกุมเป็นครั้งที่ ๔ สำนักงานสลาก ฯ จะยกเลิกโควตาทั้งหมดและเลิกสัญญาในกรณีตัวแทนจำหน่ายที่เป็นบุคคลทั่วไป ส่วนตัวแทนจำหน่ายประเภทนิติบุคคล มูลนิธิ สมาคมและองค์กรนั้น จะถูกตัดโควตาร้อยละ ๕๐ ของจำนวนสลากที่ได้รับการจัดสรร และจะถูกตัดโควตาและยกเลิกสัญญาทันทีหากพบการกระทำผิดในครั้งที่ ๕
นายวันชัย ฯ กล่าวต่อไปอีกว่า หากปรากฏชัดเจนว่าตัวแทนจำหน่ายประเภทใดก็ตาม ขายโควตา หรือโอนสิทธิให้ผู้อื่น โดยไม่จำหน่ายเอง สำนักงานสลาก ฯ จะตัดโควตาหรือบอกเลิกสัญญาในจำนวนสลากที่รับไปจำหน่ายทันที
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงสถิติการจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาตั้งแต่งวดวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๑ จนถึงขณะนี้ว่า ได้มีการจับกุมแล้ว ๑๒,๐๘๑ ราย ในส่วนกลาง ๕,๔๔๙ ราย ส่วนภูมิภาค ๖,๖๓๒ ราย ทั้งนี้ ได้ดำเนินการปรับตามกฎหมายและตัดโควตาอย่างเคร่งครัดและสำนักงานสลาก ฯ ได้เปิด “ศูนย์ข้อมูลข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์” เพื่อตอบข้อซักถามรับข้อร้องเรียนและข้อเสนอทางช่องทางต่าง ๆ ที่โทรศัพท์ ๐-๒๓๔๕-๑๔๖๖ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ ถึง ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๓ มีประชาชนสนใจใช้บริการรวมทั้งสิ้น ๔๑,๘๗๕ ราย.