ผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุน SMART Series บลจ.แอสเซท พลัส เฮ รับผลตอบแทนคืน 3 กองทุนรวด รับอานิสงค์ตลาดหุ้นปรับตัว

พุธ ๐๗ กรกฎาคม ๒๐๑๐ ๑๗:๕๖
กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท (ASP-SMART) กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 2 (ASP-SMART2) และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) นับตั้งแต่ต้นปี 53 จ่ายคืนผลตอบแทนต่อเนื่อง คิดเป็นอัตราการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติรวม 30%, 21% และ 15% ตามลำดับ ขณะที่ SET Index ปรับตัวขึ้น 11% ในช่วงเวลาเดียวกัน นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า วานนี้ (6 ก.ค. 53) ดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 1.43% โดยปิดตลาดที่ระดับ 815.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ระดับ 28,452.42 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นภูมิภาค และการคาดการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มตรึงอยู่ในระดับต่ำต่อไป ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยมีแรงซื้อกระจายทุกกลุ่มหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้ การปรับตัวของตลาดหุ้นนี้ ส่งผลดีให้กับกองทุนของบริษัทฯ โดยเฉพาะกองทุน ASP-SMART Series สามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท (ASP-SMART) กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 2 (ASP-SMART2) และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) โดย กองทุน ASP-SMART จะจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย ASP-SMART2 ในอัตรา 0.60 บาทต่อหน่วย และ ASP-SMART3 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปี 2553 กองทุน ASP-SMART, ASP-SMART2 และ ASP-SMART3 สามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง คิดเป็นอัตราการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติรวม 30%, 21% และ 15% ตามลำดับ ขณะที่ SET Index ปรับตัวขึ้น 11% ในช่วงเวลาเดียวกัน

“กองทุน SMART Series เป็นกองทุนที่กำหนดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อ NAV ปรับตัวเพิ่มขึ้นผ่านระดับที่กำหนด ซึ่งในด้านการบริหารกองทุน ผู้จัดการกองทุนได้ใช้กลยุทธ์การลงทุนที่เน้นให้ผลตอบแทนเติบโตอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว และมีการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ กอปรกับการคัดเลือกหุ้นที่เน้นเฉพาะหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และผลการดำเนินงานในระดับที่ดี ซึ่งถือเป็นความชำนาญเฉพาะด้านของทีมผู้จัดการกองทุนของบริษัทฯ จึงส่งผลให้กองทุนสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่องตามที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้

ทั้งนี้ กองทุน ASP-SMART จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2552 มีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ณ วันที่ 6 กรกฎาคม เท่ากับ 18.0493 บาท โดยกองทุนได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วรวม 8 บาทต่อหน่วยลงทุน หรือคิดเป็น 80% ของเงินลงทุนเริ่มแรก

ในขณะที่ ASP-SMART2 ซึ่งจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2552 มีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เท่ากับ 12.1170 บาท บาท โดยกองทุนได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วรวมจำนวน 2.10 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 21% ของเงินลงทุนเริ่มแรก

และกองทุน ASP-SMART3 ซึ่งจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2552 มีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เท่ากับ 11.5585 บาท โดยกองทุนได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วรวมจำนวน 1.50 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 15% ของเงินลงทุนเริ่มแรก” นางลดาวรรณ กล่าว

นางลดาวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นระยะสั้น คาดว่า SET Index น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 770-830 จุด โดยคาดว่าปัจจัยภายนอกที่จะมีอิทธิพลกับตลาดหุ้นในเดือนนี้ ได้แก่ การรายงานผลการศึกษา Stress Test ของธนาคารกลุ่ม EU ทั้งหมด ซึ่งธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันเสนอรายงานต่อสาธารณชนภายในเดือนกรกฎาคม ซึ่งหากผลการศึกษาทำให้สถาบันการเงินเพิ่มทุนไม่มากนัก ย่อมน่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี แต่ในทางตรงกันข้าม อาจกลายเป็นจุดที่ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับฐานลง ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) กอปรกับเป็นช่วงประกาศงบไตรมาส 2 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ซึ่งน่าจะทำให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นกลุ่มที่ผลักดัน SET Index ในช่วงครึ่งแรกของเดือน

สำหรับมุมมองตลาดหุ้นไทยจนถึงปลายปีนี้มองว่า SET Index จะยังคงผันผวนจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่ยังคงกดดันตลาดหุ้นโลกต่อไป โดยคาดว่า SET Index น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 750-850 จุด จากปัจจัยเศรษฐกิจภายในประเทศที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3 และ 4 และปัจจัยสนับสนุนจากการที่จีนมีนโยบายยืดหยุ่นอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งน่าจะส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น ทำให้มี Fund flow เข้ามามากขึ้นในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้ หากไม่มีปัจจัยอื่นๆ มารบกวน เช่น ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง คาดว่า ปลายปี SET Index น่าจะสามารถยืนอยู่ที่ระดับ 850 จุดได้

ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111

สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์

มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 / 02-672-1019 (เบอร์ตรง)

อีเมล์: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version