ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ค.53) ราคาปิดตลาดสิงคโปร์น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 69.15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 อยู่ที่ 79.45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 81.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงในช่วงที่ผ่านมาดังกล่าว ปตท. จึงสามารถปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลงได้อีกลิตรละ 60 สตางค์ (เว้น ดีเซลหมุนเร็ว ลด 30 สตางค์/ลิตร) ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีก ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.53) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ราคาเป็นดังนี้ หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E85 พลัส) 18.82
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E20 พลัส) 28.94
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 31.24
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 29.74
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 35.04
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 26.79
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 27.99
นายวิทยา กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลที่มีอัตราไม่เท่ากันในครั้งนี้นั้น จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมัน ไบโอดีเซล B5 มีความแตกต่างกันมากขึ้น จากเดิมที่ต่างกันอยู่ 0.90 บาท/ลิตร เพิ่มเป็น 1.20 บาท/ลิตร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้พลังงานทดแทน คือ น้ำมันไบโอดีเซล B5 ให้มากขึ้น ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการสร้างความคุ้นเคยให้กับผู้บริโภค ในการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B5 ตามนโยบายของภาครัฐฯ ที่จะกำหนดให้มีการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล B5 เพียงชนิดเดียวในปี 2554 ที่จะมาถึงนี้ อีกทั้ง นายวิทยายังได้กล่าวย้ำว่า ขอให้ทุกฝ่ายวางใจได้ว่า ปตท. จะได้พยายามอย่างดีที่สุด ในการดูแลราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นธรรมเสมอ