นายอลัน หลิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮาริสัน จำกัด ( มหาชน ) เปิดเผยว่า หลังจากประเทศไทยผ่านวิกฤตทางการเมืองในช่วงเดือนที่ผ่านมาได้ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีความพร้อมทางการตลาด สามารถทำยอดขายในวันเปิดจองโครงการเพียงวันเดียวถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้หลายโครงการติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงดีมานด์ในตลาดที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นเรียลดีมานด์ ที่อั้นมาจากเหตุการณ์ทางการเมือง ซึ่งจะยังส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 3 และ 4 ในปีนี้ ทำให้ ฮาริสัน มั่นใจว่าในปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย จะเติบโตสูงสุดในไตรมาสที่ 3 นี้ จึงได้ทำการเปิดตัวโครงการที่อยู่ในทำเลทองย่านใจกลางธุรกิจ ถึง 10 โครงการ
ฮาริสัน ได้ทำการปรับปรุงองค์กรใหม่ สำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โดยมีบุคลากรในระดับผู้อำนวยการบริหารคอนโดถึง 10 สายงาน ซึ่งในแต่ละสายงานสามารถบริหารงานขายโครงการได้ถึง 3 - 4 โครงการ ปัจจุบัน ฮาริสัน มีโครงการที่บริหารอยู่แล้ว 20 โครงการ ได้ขยายเพิ่มในไตรมาสที่ 3 นี้ 10 โครงการ และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะเปิดบริหารโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอีก 10 โครงการ ทำให้ในปีนี้ ฮาริสัน สามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม เป็นการสะท้อนภาพความเป็นมืออาชีพ และการเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้เป็นอย่างดี
ด้านการตลาดในครึ่งปีหลังนี้ ฮาริสัน ได้เตรียมงบประมาณ สำหรับทำตลาดทั้ง 10 โครงการนี้ไว้ที่ประมาณ 200 ล้านบาท จากมูลค่าของโครงการทั้งหมด 12,000 ล้านบาท ในส่วนการตลาดของ ฮาริสัน เองจะทำการตลาดเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผ่านทาง นิว มีเดีย ต่างๆ โดยเฉพาะ โทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เน็ต และการนำ โซเชียล มีเดีย เช่น เว็บไซต์ หรือสื่อเครือข่ายทาง โซเชียล เน็ตเวิร์ก เช่น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และบีบีเอ็ม มาใช้อย่างจริงจัง รวมถึงการจัดทำระบบ CRM ที่จะนำมาใช้เป็นเจ้าแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ เร็วๆนี้
ทั้งนี้ โครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ ฮาริสัน ทำการเปิดตัวในครั้งนี้ ทั้งหมด 10 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท อันประกอบด้วยโครงการอาคารชุด และศูนย์การค้า มีดังนี้
1. โครงการ Water-Gate Pavillion มูลค่า 5,500 ล้านบาท
2. โครงการ Residential On Sukhumvit 13 ( M6 ) มูลค่า 2,000 ล้านบาท
3. โครงการ Sukhumvit 39 ( J — Residence ) มูลค่า 879 ล้านบาท
4. โครงการ The Bloom Sukhumvit 71 มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท
5. โครงการ Sense Phaholyothin มูลค่า 500 ล้านบาท
6. โครงการ Beverly @ 33 มูลค่าโครงการ 420 ล้านบาท
7. โครงการ Tempo II มูลค่า 385 ล้านบาท
8. โครงการ Socio 2 Sukhumvit 61 มูลค่า 290 ล้านบาท
9. โครงการ Residence on Saladang มูลค่าโครงการ 285 ล้านบาท
10. โครงการ Cote’ ( Sukhumvit 14 ) มูลค่า 230 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่ คุณนัทกานต์ เลิศวัฒนาชัย
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บ. นิวส์ เพอร์เฟค คอมมิวนิเคชั่น จก.
โทร. 0-2956-5276 E-mail : [email protected]