กรมบัญชีกลางเปิดงานเสวนา “รำลึกอดีต ดูปัจจุบัน วาดฝันสู่อนาคต” โอกาส 120 ปี

ศุกร์ ๐๙ กรกฎาคม ๒๐๑๐ ๐๗:๔๖
นายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานเสวนาทางวิชาการ “รำลึกอดีต ดูปัจจุบัน วาดฝันสู่อนาคต” ในโอกาสที่กรมบัญชีกลางจะครบ 120 ปี วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม 2553 ณ ห้องประชุมกรมบัญชีกลาง โดยมีอดีตผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงร่วมงานเสวนา

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง แถลงต่อสื่อมวลชน ว่า การจัดงานเสวนาในวันนี้ เนื่องโนโอกาสที่กรมบัญชีกลางจะครบ 120 ปี ในวันที่ 7 ตุลาคม 2553 โดยมีสโลแกน คือ “120 ปี กรมบัญชีกลาง บริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด” และมีการจัดกิจกรรมหลายอย่าง ได้แก่ การสร้างพระพุทธรูป “พระพุทธสิตธัตถศาสดา” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำกรมบัญชีกลาง เพื่อประดิษฐาน ณ สำนักงานคลังเขตทั้ง 9 เขตทั่วประเทศ และให้บุคลากรได้เช่าบูชา งานทำบุญเลี้ยงพระ การจัดทำตราไปรษณียากร เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก หนังสือที่ระลึกครบรอบ 120 ปี การจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งมินิมาราธอน ครั้งที่ 10 ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ณ กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 10 ตุลาคม 2553 การออกร้านจำหน่วยสินค้า OTOP การจัดกีฬาสีภายในเพื่อสร้างความสามัคคี และงานเสวนาวันนี้เป็นกิจกรรมแรกที่จัดขึ้นในโอกาส 120 ปี และจะมีการจัดอีกครั้งในวันที่ 10 กันยายน 2553 โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานด้วย

งานเสวนาทางวิชาการ 120 ปี กรมบัญชีกลาง วันนี้ ได้รับเกียรติจากอดีตผู้บริหารหลายท่าน มาร่วมงาน เพื่อเล่าถึงประวัติความเป็นมาของกรมบัญชีกลาง ในอดีต ความสำคัญของการเป็นกรมที่มีภารกิจที่สำคัญของประเทศอยู่ในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติเพื่อทำหน้าที่ดูแลทรัพย์ของแผ่นดินในสมัยก่อน และการก้าวล่วงมาจนถึงปัจจุบัน กับภารกิจที่ยังคงดูแลการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการพัฒนาทั้งระบบการทำงาน พัฒนาบุคลากร และการก้าวตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาอย่างไม่หยุดนิ่ง และก้าวต่อไปอย่างยืนหยัด และยึดมั่นเพื่อพัฒนาระบบการทำงานให้เป็นกลไกสำคัญผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศมีความมั่นคงอย่างยั่งยืนและมีความโปร่งใส พร้อมให้สาธารณชนตรวจสอบได้

ในโอกาสที่ครบ 120 ปี ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 นี้ กรมบัญชีกลางได้จัดทำแผนแม่บทการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการเงินภาครัฐ (Improving the Efficiency of Public Financial Management Master Plan) เป็นแนวทางการดำเนินงาน โดยกรอบแนวคิดการทำแผนแม่บทการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการเงินภาครัฐ คือ การปรับปรุงงานที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบ และงานด้านอื่นๆ เพื่อยกระดับให้ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยกำหนดเป็น 3 ยุทธศาสตร์คือ

- ปรับปรุงและพัฒนางาน ( Development )

- เสริมสร้างธรรมาภิบาล ( Governance)

- ผ่อนคลาย กฎ ระเบียบ (Deregulation)

โดยนำมาเชื่อมโยงกับพันธกิจของกรมในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านการกำกับดูแลด้านการเงินภาครัฐ (Regulator) ด้านการให้บริการ (Service Provider) รวม 13 ภารกิจ เช่น ด้านกฎหมายและระเบียบการคลัง ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ด้านการบัญชี ด้านการตรวจสอบภาครัฐ ด้านละเมิดและแพ่ง ด้านการรัฐ-จ่ายเงินภาครัฐ การบริหารการจ่ายเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) เป็นต้น โดย

- เริ่มต้นที่การมอบอำนาจ (Delegate Empower Network) ผ่อนคลายความเข้มงวดของกฎระเบียบต่าง ๆ (Deregulation) โดยให้ส่วนราชการสามารถตัดสินใจในการบริหารงานได้อย่างสะดวก คล่องตัว

- กรมบัญชีกลางปรับเปลี่ยนบทบาทมาทำหน้าที่ในการ่ส่งเสริมให้ส่วนราชการใช้กฎระเบียบได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีระบบประเมิน และการประกันคุณภาพให้แก่ส่วนราชการ (Fiscal Program ISO) เป็นการตรวจสุขภาพทางการคลัง เพื่อแสดงว่าส่วนราชการสามารถบริหารใช้จ่ายเงินได้ในระดับดี ก็ควรจะกระจายอำนาจ และผ่อนคลายกฎระเบียบเพิ่มขึ้นต่อไป

- ปรับปรุงและพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (Development Process) โดยการลดขั้นตอนการอนุมัติอนุญาต เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ปรับปรุงพัฒนาระบบสารสนเทศให้มากยิ่งขึ้น และเสริมงานด้านบริการให้ทันสมัย เป็น e-service สร้างแหล่งข้อมูลหรือฐานข้อมูล ให้ครอบคลุมทุกเรื่อง โดยให้ผู้ใช้งานได้โดยสะดวกและตลอดเวลา

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ กล่าวต่อท้ายว่า ผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินงานตามแผ่นแม่บทการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการเงินภาครัฐ ดังกล่าว จะทำให้กลไกการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ เป็นไปอย่างมีระบบ มีประสิทธิภาพ โดยเชื่อมั่นได้ว่า การดำเนินงานของกรมบัญชีกลางถือเป็นกลไกสำคัญของประเทศที่ทำให้การปฏิบัติงานภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ