ปัญญาสมาพันธ์ฯ เผยผลสำรวจ “ความคิดเชิงสร้างสรรค์” ของนักศึกษา ใน กทม. พบ นศ.เรียกร้องให้สถาบันเป็นแหล่งเพาะไอเดีย

ศุกร์ ๐๙ กรกฎาคม ๒๐๑๐ ๑๑:๑๙
ปัญญาสมาพันธ์เพื่อการวิจัยความเห็นสาธารณะแห่งประเทศไทย โดยความสนับสนุนของ บมจ. ซีพี ออลล์ ได้ทำการสำรวจทัศนคติต่อความคิดเชิงสร้างสรรค์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร โดยทำการเลือกกลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งสิ้น 1,050 คนจากนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ชั้นปี 3 ขึ้นไปทั้งในมหาวิทยาลัยรัฐบาล มหาวิทยาลัยเอกชน สถาบันราชภัฏ และสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลในเขตกรุงเทพมหานคร ใน 4 สาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ ได้แก่ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์/วารสารศาสตร์ สาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ และสาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ ในเรื่องเกี่ยวกับความคิดเชิงสร้างสรรค์ของตัวนักศึกษาเอง การใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ของตนเองขณะกำลังศึกษาอยู่ และการสนับสนุนความคิดเชิงสร้างสรรค์ของนักศึกษาโดยมหาวิทยาลัย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ทราบถึงความคิดเห็นของนักศึกษาที่จะเป็นแรงสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต่อไป

ดร.สาวิตรี สุทธิจักร์ ในฐานะตัวแทนปัญญาสมาพันธ์ฯ เผยถึงที่มาของงานวิจัยชิ้นนี้ว่า “จากประสบการณ์ในการศึกษาวิจัยด้านนวัตกรรม ทั้งจากสถาบันวิจัยนวัตกรรมแห่งแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และงานวิจัยในประเทศไทย เห็นว่าในปัจจุบันรัฐบาลกำลังมุ่งทิศทางไปในเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) อย่างจริงจัง เพราะจะสามารถทำให้ประเทศแข่งขันได้ในตลาดโลก งานวิจัยชิ้นนี้จึงมีวัตถุประสงค์หลักคือ ศึกษาถึงความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อความคิดเชิงสร้างสรรค์ของตนเอง การใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ของตนเองขณะกำลังศึกษาอยู่ และความคิดเห็นเกี่ยวกับการสนับสนุนความคิดเชิงสร้างสรรค์โดยมหาวิทยาลัยที่นักศึกษากำลังศึกษาอยู่ ในการหาคำตอบต่อไปว่า นักศึกษามีทัศนคติเกี่ยวกับความคิดเชิงสร้างสรรค์ของตนเองอย่างไร ได้สิ่งเหล่านี้ออกมาใช้หรือไม่ และต้องการให้มหาวิทยาลัยสนับสนุนพวกเขาในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด และอย่างไร ฯลฯ

“ความคิดเชิงสร้างสรรค์จะเกิดได้ก็เพราะ “คน” ซึ่งเป็น “ทุนมนุษย์ที่สำคัญ” หากสามารถทราบถึงทัศนคติต่อความคิดเชิงสร้างสรรค์ของของนักศึกษาว่าเป็นไปในทิศทางใด ก็จะทำให้ทราบถึงแนวโน้มของความคิดเชิงสร้างสรรรค์ในสังคมไทยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย จากการเจาะกลุ่มนักศึกษาเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครชั้นปี 3 ขึ้นไปที่กำลังเรียนอยู่ใน 4 สาขาวิชาดังกล่าวข้างต้น เพราะนักศึกษากลุ่มนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องการใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์อย่างชัดเจน ซึ่งผลสำรวจทำให้ทราบว่า นักศึกษาล้วนตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของความคิดเชิงสร้างสรรค์ และเห็นว่าการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยสามารถพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงสร้างสรรค์ของพวกเขาได้ (ร้อยละ 54.7) อีกทั้งเรื่องความคิดเชิงสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเรียนและการทำงานในอนาคต (ร้อยละ 78) และยังต้องการได้รับการพัฒนาความคิดเชิงสร้างสรรค์จากมหาวิทยาลัย (ร้อยละ 69.1) แม้ว่าความคิดเชิงสร้างสรรค์ของนักศึกษา อาจจะเกิดจากนอกรั้วมหาวิทยาลัยบางส่วนบ้างก็ตาม แต่ถึงอย่างไร ความต้องการให้ทางสถาบันสนับสนุนและช่วยเหลือเรื่องความคิดเชิงสร้างสรรค์ก็อยู่ในอัตราที่ค่อนข้างสูง”

นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบอีกว่า นักศึกษาเห็นว่าความคิดเชิงสร้างสรรค์นั้นช่วยสร้างรายได้ให้ตน (ร้อยละ 72.9) มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย (ร้อยละ 71.5) และจำเป็นต่อผลการเรียนของตน (ร้อยละ 69.8) มีนักศึกษาเพียงร้อยละ 44.4 เท่านั้นที่เห็นว่าตนเองมีความคิดเชิงสร้างสรรค์ในระดับมากถึงมากที่สุด ส่วนความคิดเห็นต่อการใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ขณะกำลังศึกษาอยู่ พบว่านักศึกษาร้อยละ 54.7 ใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์มากถึงมากที่สุดในขณะเรียน โดยนักศึกษาใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ในการทำกิจกรรมหรือโครงงานต่างๆ (ร้อยละ 58.9) ใช้เมื่อต้องการทำงานให้เสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ (ร้อยละ 36) ใช้เมื่อต้องการสร้างผลงานให้โดดเด่นและแตกต่าง (ร้อยละ 35.94) และใช้เมื่อต้องการหาทางแก้ไขปัญหา (ร้อยละ 25.89) สิ่งจูงใจที่นักศึกษาส่วนมากระบุว่าทำให้นักศึกษาคิดเชิงสร้างสรรค์คือความภาคภูมิใจในตนเอง (ร้อยละ 45.96) รองลงมาคือ ค่าตอบแทนเป็นเงิน (ร้อยละ 19.97) รางวัลแสดงถึงความสามารถ (ร้อยละ 16.16) และชื่อเสียง (ร้อยละ 13.02) ส่วนนักศึกษาที่เห็นด้วยมากถึงมากที่สุดว่ามหาวิทยาลัยเป็นแหล่งความคิดเชิงสร้างสรรค์ของตนมีเพียงร้อยละ 43.2

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า สัดส่วนนักศึกษาที่คิดว่าตนเองมีความคิดเชิงสร้างสรรค์และใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ในขณะศึกษาในระดับมากถึงมากที่สุด ต่ำกว่า สัดส่วนนักศึกษาที่เห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นของความคิดเชิงสร้างสรรค์ต่อเศรษฐกิจและตัวนักศึกษาเองในระดับมากถึงมากที่สุด อีกทั้งมีสัดส่วนนักศึกษาต่ำกว่าร้อยละ 50 ที่เห็นด้วยมากถึงมากที่สุดว่ามหาวิทยาลัยเป็นแหล่งความคิดเชิงสร้างสรรค์ของตนเอง ในขณะที่สัดส่วนนักศึกษาถึงร้อยละ 69.1 เห็นด้วยมากถึงมากที่สุดว่าต้องการให้มหาวิทยาลัยสนับสนุนตนเองให้ใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์

“จากผลการศึกษานี้ คาดว่าสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จะได้รับประโยชน์มากที่สุด เพราะสามารถนำไปใช้ต่อยอดในการสนับสนุนการทำงานและกิจกรรมต่างๆ ของสถาบันเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษาพัฒนาความคิดเชิงสร้างสรรค์ต่อไปได้ โดยอาจจะมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้และนโยบายต่าง ๆ ของแต่ละมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยได้มีการสนับสนุนในเรื่องนี้อย่างไร และควรจะสนับสนุนเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความคิดเชิงสร้างสรรค์ของนักศึกษาต่อไป ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้นักศึกษามีความคิดเชิงสร้างสรรค์และความมั่นใจในการใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์อันจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้องค์กรธุรกิจก็สามารถนำผลจากการวิจัยไปใช้อ้างอิงหรือเป็นแนวทางในการวางแผนพัฒนาบุคลากรให้มีความคิดเชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างความมั่งคั่งแก่ภาคธุรกิจและประเทศไทยในอนาคต ตลอดจนหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องต่างๆ สามารถกำหนดนโยบายเพื่อมุ่งพัฒนาความคิดเชิงสร้างสรรค์ และใช้ประโยชน์จากความคิดเชิงสร้างสรรค์ของนักศึกษาได้ เพราะเมื่อนักศึกษาจบไปจะเป็นแรงงานสำคัญในระบบเศรษฐกิจและเป็นกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต่อไป” ดร.สาวิตรี กล่าว

ปัญญาสมาพันธ์เพื่อการวิจัยความเห็นสาธารณะแห่งประเทศไทย (The Wisdom Society for Public Opinion Research of Thailand: WPORT) คือ กลุ่มนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ 10 สถาบัน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม และสถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ รวมตัวกันเพื่อศึกษาและสร้างสรรค์ผลงานวิจัยสาธารณะที่น่าเชื่อถือ โดยความสนับสนุนของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.wport.org

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO