“ไอเอฟเอส”เชื่อมั่นศักยภาพตลาดทุนไทยแข็งแกร่ง มั่นใจนำหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้นขาย นลท.ปลายเดือนกรกฎาคมนี้

จันทร์ ๑๒ กรกฎาคม ๒๐๑๐ ๐๘:๓๙
ไอเอฟเอส แคปปิตอล” เชื่อมั่นศักยภาพของประเทศไทยและตลาดหุ้นไทย นำหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น ระดมทุน ในปลายเดือนกรกฎาคมและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET ในต้นเดือนสิงหาคมนี้ ระบุเงินที่ได้จะนำไปขยายกิจการเพื่อสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม “ตัน เล เยน” ระบุหุ้น IFS มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ดังนั้นเชื่อสามารถเรียกความสนใจจากนักลงทุนได้

คุณตัน เล เยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IFS เปิดเผยว่าในปัจจุบันถือเป็นจังหวะที่ลงตัวทั้งความพร้อมของบริษัทฯ และสภาพของตลาดทุน และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ทางด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงได้ตัดสินใจที่จะระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและเข้าจดทะเบียนได้ประมาณในปลาย กรกฎาคม - ต้นสิงหาคม นี้

IFS เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน120 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.53 ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ (ณ เดือนธันวาคม 2552 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 470 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 470 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีทุนชำระแล้ว 350 ล้านบาท) และจะดำเนินการนำหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)

“เงินทุนที่ IFS ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ มีแผนที่จะนำไปใช้ในการขยายการให้บริการและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท เพราะเรามองเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ เนื่องจากเศรษฐกิจยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายถึงธุรกิจของ IFS ที่ยังสามารถขยายตัวได้อีกมากเช่นกัน ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของ IFS ที่จะระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำมาขยายธุรกิจให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทุกปี และมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งทางด้านเงินทุนรองรับควบคู่กันไป”

IFS เป็นบริษัทลูกของ IFS (Singapore) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงค์โปร์ ทั้งนี้ กลุ่ม IFS (Singapore) มีความเชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจแฟคตอริ่ง มีการดําเนินธุรกิจในหลายประเทศได?แก? สิงคโปร? ไทย มาเลเซี ย อินโดนีเซีย และฮ?องกง โดย IFS มีต้นทุนทางการเงินที่สามารถแข่งขันได้ มีอัตราหนี้เสียต่ำ และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ในเกณฑ์ดี

สำหรับผลประกอบการสุทธิของ IFS ในปี 2550 2551 และ 2552 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 50.48 ล้านบาท 71.13 ล้านบาทและ 71.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นตามลำดับ

ทั้งนี้ ในปี 2551 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.91 เทียบกับปี 2550 ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทมีรายได้มากขึ้นและการบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทได้ตระหนักถึงความสามารถในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างเหมาะสม โดยพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนปี 2552 แม้จะมีวิกฤติทางการเงินแต่ก็สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 71.29 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากปี 2551 ร้อยละ 0.22

เขากล่าวต่อว่าถึงแผนการดำเนินงานในอนาคตว่าบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาในต่างจังหวัดเนื่องจากมีผู้ประกอบการในหลายพื้นที่ ที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี โดยการเปิดสาขา เพื่อครอบคลุมพื้นที่การให้บริการสินเชื่อ และเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ทั้งนี้ จะพิจารณาควบคู่ไปกับสภาวะเศรษฐกิจ โดยบริษัทมีโครงการที่จะเปิดสาขาในภาคตะวันออก ภาคกลางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาทต่อสาขา

ทั้งนี้ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตั้งมานานกว่า 19 ปีประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการสินเชื่อแฟคเตอริ่งซึ่งเป็นสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการ ที่สามารถนำลูกหนี้การค้าที่เกิดจากการขายเชื่อมาใช้ในการใช้สินเชื่อกับ IFS ได้ ทั้งผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าในประเทศและส่งออกเนื่องจาก IFS เป็นสมาชิกของ International Factors Group ซึ่งเป็นเครือข่ายแฟคตอริ่งที่มีสมาชิกกว่า 152 บริษัท อยู่ในประเทศต่างๆมากกว่า 55 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี สินเชื่อลีสซิ่งประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน และสินเชื่อเช่าซื้อ ที่สามารถเป็นแหล่งเงินสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจและมีการลงทุนในเครื่องจักร หรือยานพาหนะ นอกจากนี้ IFS ยังมีสินเชื่อประเภทอื่นๆ โดยบริษัทมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าในทุกภาคธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนหรือเงินลงทุน ในทุกภาคธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรม พาณิชย์ หรือบริการ เช่น ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหาร เครื่องดื่ม ยา กระดาษและบรรจุภัณฑ์ ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ การบริการ เช่น จัดหางาน รักษาความปลอดภัย บันเทิงและนันทนาการ

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : IR network

คุณณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์ (เก๋) e-mail : [email protected]

คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว (มิกซ์) e-mail : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version