กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ห่วงสถานการณ์ภัยธรรมชาติ เดินหน้า “ทดลอง วิจัย เติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาล” แก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม

อังคาร ๒๐ กรกฎาคม ๒๐๑๐ ๑๕:๓๗
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเตรียมรับสถานการณ์ภัยธรรมชาติ เดินหน้าศึกษาแนวทางแก้ปัญหา ภัยแล้ง และน้ำท่วม โดยการเติมน้ำลงสู่ชั้นน้ำบาดาลพื้นที่แอ่งเจ้าพระยาตอนบน จังหวัดพิจิตร สุโขทัย และพิษณุโลก พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์ภัยธรรมชาติ และสถานการณ์การใช้น้ำอย่างใกล้ชิดทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ

นายโชติ ตราชู อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้ง ในปี 2553 รุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือตอนล่าง พบว่าระดับน้ำบาดาลในชั้นน้ำบาดาลได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนลดน้อยลงในฤดูฝน และปริมาณ น้ำผิวดินที่ไหลซึมลงสู่ชั้นน้ำบาดาลน้อยลง โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดพิจิตร สุโขทัย และพิษณุโลก ที่มักประสบปัญหาอุทกภัยในฤดูน้ำหลาก และปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งของทุกปี ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสภาพเศรษฐกิจและวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร ซึ่งระดับน้ำบาดาลที่ลดลงจะมีผลต่อการนำน้ำมาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้ง ทำให้มีการทรุดบ่อเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ใช้น้ำบาดาล โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรประชาชนจะเสียค่าใช้จ่ายในการเพิ่มขนาดเครื่องสูบน้ำ และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำเพิ่มมากขึ้น ซึ่งระดับน้ำที่ลดต่ำลง 1 เมตร จะทำให้เสียค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องสูบน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 3.50 บาท ต่อ ชั่วโมง รวมถึงอาจมีผลให้ชั้นน้ำบาดาลแห้งลง ขาดศักยภาพในการพัฒนานำน้ำขึ้นไปใช้เพื่อการเกษตรและหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นของผิวดิน อันจะนำไปสู่ การเสียสมดุลทางระบบนิเวศวิทยา

กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงได้ศึกษาทดลองการเติมน้ำลงสู่ชั้นน้ำบาดาลผ่านระบบสระน้ำพื้นที่ลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร โดยสำรวจ ศึกษา รวบรวมข้อมูลด้านธรณีวิทยา อุทกธรณีวิทยา และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คัดเลือกพื้นที่เหมาะสมเพื่อเป็นพื้นที่นำร่องทดลองระบบเติมน้ำลงชั้นน้ำบาดาล โดยการเติมน้ำผิวดินในช่วงฤดูน้ำหลากเข้ากักเก็บสู่ชั้นน้ำบาดาล และสูบขึ้นมาใช้ในฤดูแล้ง ซึ่งเป็นการลดความสูญเสียของพื้นที่เกษตรกรรม อันจะนำไปสู่การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต

ขณะนี้ การดำเนินโครงการแล้วเสร็จไป ร้อยละ 80 และอยู่ระหว่างการทดลองระบบเติมน้ำระยะเวลา 6 เดือน การติดตามผลกระทบของการเติมน้ำทั้งปริมาณและคุณภาพ และประเมินความเหมาะสมด้านเศรษฐศาสตร์ คาดว่าจะได้ทราบผลการศึกษาในเดือนตุลาคม 2553

นายโชติ ได้กล่าวย้ำว่า “อยากฝากให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของประเทศที่มีการพัฒนานำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ การใช้น้ำบาดาลอย่างรู้คุณค่า และบูรณาการการใช้น้ำผิวดินและน้ำบาดาลร่วมกันจะสนับสนุนให้เกิดระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความสูญเสียที่เกิดจาก ภัยธรรมชาติได้อย่างถาวรในอนาคต”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๒๕ หอการค้าไทย-อิตาเลียน จัดพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ Ospitalit? Italiana ครั้งที่ 11 เชิดชูร้านอาหารอิตาเลียนทั่วไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมอิตาเลียนอันโดดเด่นและเป็นเลิศ
๐๘:๒๐ เปิดประตูสู่การเรียนรู้ระดับสากล! ม.ศรีปทุม MOU กับ WCC Aeronautical and Technological College ฟิลิปปินส์
๐๘:๔๑ DEXON คว้างานใหญ่ NDT จากกลุ่ม ปตท.สผ. มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
๐๘:๔๔ ระบบขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแนวทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของมหาวิทยาลัยพะเยาอย่างยั่งยืน
๐๘:๕๓ วัน แบงค็อก จับมือสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา จัดเวิร์คช็อปร่วมกับศิลปินระดับโลก คาลัม สกอตต์ และ ลอเรน ออลเรด
๐๘:๑๔ PDPC เตือนบริษัทเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด พร้อมเปิดช่องทางร้องเรียนเพื่อปกป้องสิทธิของประชาชน
๐๘:๑๐ สถาบันปิดทองหลังพระฯ บูรณาการร่วมจังหวัดศรีสะเกษผลักดันซ่อมแซมและเสริมศักยภาพแหล่งน้ำในชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพผลิตสินค้าเกษตรและสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน
๐๘:๑๗ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัลเกียรติยศ SET AWARDS 2024 ประเภท Highly Commended Sustainability Awards
๐๘:๑๕ Bangkok Art Auction จัดงานประมูลศิลปะส่งท้ายปี The Iconic Treasure 2024 ผลงานกว่า 100 ชิ้น พร้อมชวนชมนิทรรศการก่อนการประมูล ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 พ.ย. 67 ณ
๐๘:๕๐ บินตรงจากแดนปลาดิบเสิร์ฟความอร่อยติดดาวกับเชฟมิชลินสตาร์ 1 ดาว ณ ห้องอาหารอูโนมาส ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ