นางกอบบุญ ศรีชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านลงทุนสัมพันธ์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ได้เดินทางไปโรดโชว์ในต่างประเทศเพื่อแนะนำบริษัทพร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่กองทุนชั้นนำต่างๆ โดยในสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางเข้าพบกองทุนชั้นนำใน 4 รัฐ คือ นิวยอร์ค บอสตัน ซานฟรานซิสโก และไมอามี่ ส่วนในยุโรปนั้น ได้เดินทางพบกองทุน ใน 5 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน สวีเดน และเดนมาร์กซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่มีกลยุทธ์ในการลงทุนระยะยาว
ทั้งนี้ หลังการเดินทางเข้าพบบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยกองทุนต่างให้ความสนใจ ในพื้นฐานและผลประกอบการที่ดีขึ้นมาก ซึ่งในปีนี้ ซีพีเอฟคาดว่ายอดขายจะเป็นไปตามเป้า คือ 1.8 แสนล้านบาท จาก 1.6 แสนล้านบาทในปี2552
นอกจากนี้ การปรับย้ายหมวดธุรกิจจากธุรกิจการเกษตรเป็นหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและการเพิ่มสัดส่วนของอาหารคน โดยการผลักดันธุรกิจอาหารนี้ให้มีความหลากหลาย ผ่านการสร้างแบรนด์ในต่างประเทศและการขยายช่องทางธุรกิจรีเทลของซีพีเอฟในอนาคตล้วนช่วยสร้างความมั่นใจแก่กองทุนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ คือ นโยบายการลงทุนในต่างประเทศ ที่เริ่มเห็นผลชัดยิ่งขึ้นใน 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปีนี้ที่การดำเนินงานในประเทศตุรกีอินเดีย มาเลเซีย และล่าสุดรัสเซียเริ่มส่งผลให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น โดยในไตรมาส 1/53 ที่ผ่านมา รายได้ที่ซีพีเอฟได้รับจากการลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนถึงประมาณ 25% ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซี แอล เอสเอ (ประเทศไทย)แนะนำ“ซื้อ” ซีพีเอฟ โดยตั้งเป้าราคาไว้ที่ 30 บาท ในขณะที่ บล.กรุงศรีอยุธยา คาดว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/53 ของซีพีเอฟ ที่จะประกาศออกมาเร็วๆนี้ จะออกมาดี