นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเสรีเต็มรูปแบบของธุรกิจค้าหลักทรัพย์ ในปี 2555 ว่า บริษัทฯมองถึงโครงสร้างรายได้ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต จึงต้องมีการจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ ให้สามารถรองรับการเติบโตทางธุรกิจ รวมถึงการขยายธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สำหรับการปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ ได้มีการแต่งตั้ง นายบรรณรงค์ พิชญากร ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ดูแลกิจการค้าหลักทรัพย์ และนายวรารัตน์ ชุติมิต ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ดูแลกิจการวาณิชธนกิจ ซึ่งผู้บริหารทั้งสองท่านนี้ได้ร่วมงานกับหลักทรัพย์ บัวหลวงในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการมาระยะหนึ่งแล้ว
“ผู้บริหารทั้งสองท่านถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความชำนาญ และมีประสบการณ์ในธุรกิจหลักทรัพย์ มีจุดเด่นที่สามารถทำงานสนับสนุนกันได้เป็นอย่างดี มั่นใจว่าจะสามารถนำทีมสร้างโอกาสใหม่ให้บริษัทฯ ก้าวหน้าทางธุรกิจต่อไปในอนาคต ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนองค์กรอยู่เป็นระยะ และได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งทำให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งพนักงานในองค์กรเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่าเป็นไปเพื่อการเตรียมพร้อมสำหรับสภาพธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนจึงทำให้ได้เปรียบบริษัทอื่นๆ” นายพิเชษฐกล่าว
นายพิเชษฐกล่าวว่า การปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ ในส่วนของกิจการค้าหลักทรัพย์นั้น จะครอบคลุมถึงธุรกิจการให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับลูกค้าบุคคล โดยมีหน่วยงานสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อรองรับการค้าหลักทรัพย์บุคคล สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล ฝ่ายกลยุทธ์การตลาดลูกค้าบุคคล และฝ่ายการลงทุนอาร์บิทราจ
ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างกิจการค้าหลักทรัพย์ใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทในการเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการครบวงจร (Full Service/Premium broker) เพื่อตอบสนองตลาดกลุ่มนักลงทุนบุคคลซึ่งมีความต้องการบริการที่หลากหลาย การรวบรวมทรัพยากรขององค์กรที่เกี่ยวข้องมาอยู่ภายใต้กิจการค้าหลักทรัพย์จะทำให้การดำเนินงานมีความสอดคล้องและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนกิจการวาณิชธนกิจนั้น นายพิเชษฐเผยว่า เน้นการให้บริการและขยายธุรกิจให้กว้างขึ้น อาทิ การลงทุนในธุรกิจต่างๆในระยะยาว โดยจัดให้มีหน่วยงานสนับสนุน ประกอบด้วยสายงานวาณิชธนกิจ ทำหน้าที่ให้บริการด้านวาณิชธนกิจ เช่น การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน การเป็นผู้จัดการการจำหน่ายและการรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ และสายงานการลงทุนธุรกิจ ทำหน้าที่ในการระดมทุนจากผู้สนใจเพื่อทำการลงทุนธุรกิจในลักษณะการลงทุนระยะยาว
“ทุกวันนี้ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก กิจการวาณิชธนกิจจะยังคงเน้นการให้บริการการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและการรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ และจะเพิ่มช่องทางการลงทุนในธุรกิจที่สามารถเปลี่ยนสัดส่วนโครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ความร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ และบริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพมีความแนบแน่นยิ่งขึ้น โดยเราพร้อมที่จะหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัทฯ” นายพิเชษฐกล่าว
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงภารกิจใหม่ที่ต้องดูแลรับผิดชอบว่า เป้าหมายหลักของกิจการค้าหลักทรัพย์ คือการเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพเพื่อเป็นเพื่อนคู่คิดในการออมและการลงทุนสำหรับนักลงทุนบุคคล ซึ่ง หลักทรัพย์ บัวหลวง มีทีมงานและทรัพยากรในด้านต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว การเข้ามามีส่วนร่วมผลักดันให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป จะทำให้บริษัทมีความพร้อมในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้
“กิจการค้าหลักทรัพย์ จะมุ่งเน้นการพัฒนาการให้บริการที่ดีกว่า เพื่อนำเราไปสู่การเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพชั้นนำและเป็นที่ไว้วางใจในการใช้บริการ นอกจากนี้ จากการเป็นบริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารกรุงเทพซึ่งมีเครือข่ายและฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง และมีนโยบายการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือในกลุ่มลูกค้าบุคคลโดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดเสรีในธุรกิจหลักทรัพย์อย่างเต็มรูปแบบแล้ว” นายบรรณรงค์กล่าว
นายวรารัตน์ ชุติมิต กรรมการผู้จัดการ กิจการวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ภายใต้โครงสร้างใหม่นี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกิจการวาณิชธนกิจของบริษัทฯยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนำความเชี่ยวชาญจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและการเป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายในปัจจุบันไปต่อยอดโดยการเพิ่มโอกาสในการลงทุนให้กับบริษัทฯ รวมถึงการสร้างชื่อเสียงและผลกำไรจากการลงทุนให้กับบริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพและกลุ่มลูกค้าสถาบันต่างๆซึ่งจะสามารถสร้างการยอมรับได้มากยิ่งขึ้น
“เรามีความโดดเด่นตรงที่มีเป้าหมายชัดเจนและมีทีมงานที่แข็งแกร่งมีความรู้ ความชำนาญ ความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์ด้านวาณิชธนกิจอย่างดียิ่ง ลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้บริการจาก หลักทรัพย์ บัวหลวงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังมีธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทำให้บริษัทฯมีความมั่นคง และมีโอกาสทางธุรกิจสูง” นายวรารัตน์กล่าว
นายพิเชษฐ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างองค์กรและทีมผู้บริหารในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะมีส่วนในการผลักดันธุรกิจของหลักทรัพย์ บัวหลวงในอนาคต และเชื่อมั่นว่าด้วยการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้จะเป็นกลไกสำคัญที่ส่งผลให้หลักทรัพย์ บัวหลวงก้าวขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งท็อปทรีในตลาดได้
“ในทางธุรกิจ หลักทรัพย์บัวหลวงอยากเป็นผู้นำในธุรกิจหลักทรัพย์ แต่ที่สุดแล้ว เราต้องการเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีที่สุด และอยู่ในใจของลูกค้าในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ทั้งลูกค้าบริษัทและลูกค้าบุคคล” นายพิเชษฐกล่าวในท้ายที่สุด