นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัทโกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน)GBX เปิดเผยว่า ความน่าสนใจในการถือครองทองคำขณะนี้เริ่มลดน้อยถอยลง เนื่องจากในช่วงหลังตลาดทองคำไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุน โดยเฉพาะตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. 53 ของ สหรัฐฯ ที่ออกมาอยู่ที่ 1.1% น้อยกว่า งวดก่อนที่ 2.0% และถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งปัจจัยลบดังกล่าวทำให้นักลงทุน ไม่จำเป็นต้องรีบใช้ทองคำเพื่อ Hedge ผลกระทบจากความคาดหวังว่าจะเกิดภาวะเงินเฟ้อในอนาคตอีกต่อ ไป
“ ราคา ทองคำจะถูกกดดันจากปัจจัยทางด้านฤดูกาล ที่กำลังเข้าสู่ช่วง Low Season มากขึ้น โดยถ้าหากยัง ไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวไม่ต่างจากภาพในอดีตที่ 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ค. ทองคำมักให้ผลตอบแทนติดลบในอัตราเฉลี่ย 0.2-0.9% ต่อ สัปดาห์ ด้วยความน่าจะเป็นราว 60% หรือ 6 ใน 10 ปีที่ราคาปรับตัวลง”นายณัฐพล กล่าว
นอกจาก นี้ มองว่าทองคำจะไม่ได้ประโยชน์จากการเคลื่อนย้ายกระแสเงินในช่วงนี้มากนัก เพราะผลการวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ในระยะสั้นของเรา ไม่ได้บ่งชี้ถึงความได้เปรียบในการถือครองเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ชนิดใดเลย และหากเงินจะไหลกลับเข้าหา Safe Haven อีกครั้ง เชื่อ ว่าพันธบัตรสหรัฐฯจะเป็นทางเลือก ที่ดีมากกว่าทองคำ เนื่องจากท่าทีของเฟดล่าสุดยังมีมุมมองเชิงลบต่อภาวะเศรษฐกิจ
ซึ่งทำ ให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มถูกกดให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกนาน Upside การปรับขึ้นของราคาพันธบัตร ที่ให้อัตราผลตอบแทนคงที่จึงค่อนข้างเปิดกว้าง
สำหรับกลยุทธ์สัปดาห์นี้ แนะนำให้นักลงทุนสงวนท่าทีในการเข้าซื้อไปก่อน เพราะยังมีความเสี่ยงที่ราคาทองคำโลกจะอ่อนตัวลงมาหาแนวรับแถว 1,170-1,175 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งช่วงนั้นน่าจะเป็นโอกาสดีในการทยอยเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง หรืออาจใช้ Gold Futures เพื่อบริหารความเสี่ยง โดยการเปิดสถานะ Short ไปก่อน คาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวทั้งสัปดาห์ไว้ที่ 1,170-1,220เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 17,900-18,600 บาท / บาททอง