กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง เตรียมกลยุทธ์แนวรุกรักษาความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง วางแผนขยายไลน์ธุรกิจของบริษัท เปิดตัวผลิตภัณฑ์นำเข้าตัวใหม่ “รองเท้าเสริมสร้างพัฒนาการเด็กพีเจ้น” เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ หลังวิจัยพบคุณแม่หันมาเลือกใช้สินค้าที่เน้นคุณภาพมากกว่าราคามากขึ้น
นายเมธิน เลิศสุมิตรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก ภายใต้แบรนด์ “พีเจ้น” เปิดเผยถึงภาวะตลาดสินค้าเพื่อเด็กในขณะนี้ว่า ปัจจุบันมีสภาวะการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงมากขึ้นกว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคต่างระมัดระวังการใช้จ่ายท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากขึ้น ประกอบกับขณะนี้คุณแม่ยุคใหม่มีรูปแบบไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยหันมานิยมเลี้ยงบุตรเองเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทุกบริษัทต่างเร่งขยายไลน์สินค้า และมีการจัดกิจกรรมการตลาดต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อสร้างความน่าสนใจและเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคให้เร็วกว่าช่วงที่ผ่านมา
ล่าสุด บริษัทได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ “รองเท้าเสริมสร้างพัฒนาการเด็กพีเจ้น” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นและตอบสนองความต้องการของคุณแม่ได้ครบวงจรเพิ่มมากว่าเดิม โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในระดับพรีเมี่ยม และคุณแม่ยุคใหม่ที่เลือกซื้อสินค้าโดยดูจากคุณภาพของสินค้ามากกว่าปัจจัยด้านราคาเป็นหลัก ซึ่งบริษัทคาดว่ากลุ่มสินค้าดังกล่าวจะทำให้ยอดขายของสินค้าเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก (Baby Accessories ) ของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 15%
โดยมองว่า พัฒนาการที่ดีของฝ่าเท้าคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับก้าวแรกของทารก รองเท้าที่ดีจะช่วยให้ทารกสามารถก้าวเดินได้เต็มฝ่าเท้า ยังช่วยป้องกันการขาโก่งหรือการผิดรูปของเท้า และช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในการฝึกเดินให้เป็นไปตามธรรมชาติ รองเท้าเสริมสร้างพัฒนาการเด็กพีเจ้น มีจุดเด่นอยู่ที่รูปแบบการดีไซน์ของ ผลิตภัณฑ์ ที่มีการออกแบบส่วนหัวของรองเท้าให้มีลักษณะกว้างเป็นพิเศษและบุด้วยวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้ทารกมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหวนิ้วเท้าได้อย่างมีอิสระ ขณะที่บริเวณพื้นนอกรองเท้า เน้นการใช้วัสดุที่อ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นง่าย ทำให้รู้สึกมั่นคงขณะสวมใส่ เหมือนยืนด้วยเท้าเปล่า จึงเหมาะสำหรับทารกที่พึ่งเริ่มหัดเดินมากที่สุด
ซึ่งในเบื้องต้น บริษัทได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไว้ทั้งสิ้น 2 แบบให้เลือก ได้แก่ แบบที่ 1 เหมาะสำหรับทารกอายุ 8-10 เดือน ที่เริ่มตั้งไข่จนกระทั่งฝึกเดินด้วยการเกาะเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน มี 3 สี 4 ขนาดให้เลือก ตั้งแต่ ขนาด 10.5-12 ซม. และแบบที่ 2 เหมาะสำหรับทารกอายุตั้งแต่ 10 เดือนขึ้นไป ที่เริ่มหัดเดินด้วยตนเอง มี 5 สี 5 ขนาดให้เลือก ตั้งแต่ขนาด 12-14 ซม. ปัจจุบันมีวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ร้านค้าในโรงพยาบาล และร้านสเปเชี่ยลตี้ที่ขายสินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็กโดยเฉพาะ
“ทุกผลิตภัณฑ์ของพีเจ้นจะได้รับการพัฒนาและค้นคว้าจากห้องปฎิบัติการพิเศษ ซึ่งทำการสังเกต พฤติกรรมการเลี้ยงลูกจริงของแม่และเด็กทารก ตั้งแต่เริ่มหัดรักษาความสมดุลของน้ำหนักตัวในการยืน จนกระทั่งทารกเดินก้าวแรกได้ด้วยตนเอง จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ของพีเจ้นสามารถตอบสนองรูปแบบการใช้งานได้สูงสุด และมีส่วนช่วยให้ทารกมีพัฒนาการได้อย่างสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น โดยการวิจัยดังกล่าวถือเป็นจุดแข็งของบริษัทและได้รับยอมรับจากคุณแม่ในเรื่องของคุณภาพในหลายประเทศแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย” นายเมธิน กล่าว
สำหรับภาพรวมในตลาดกลุ่มสินค้าเครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 520ล้านบาท โดยในปี 2547ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายจากสินค้ากลุ่มดังกล่าว 25 ล้านบาท ซึ่งจากการนำเข้าสินค้าผลิตภัณฑ์รองเท้าเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ทำให้บริษัทคาดว่าสิ้นปีนี้บริษัทจะมียอดขายจากกลุ่มสินค้าดังกล่าว คิดเป็นอัตราการเติบโต 15%
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
จิดาภา ประมวลทรัพย์, สมฤทัย ผลพละ
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร.0-2693-7835-8 ต่อ32,34
โทรสาร 0-2693-6920, 0-2276-8552
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--
- พ.ย. ๒๒๘๔ อนันดาฯ จับมือ แอร์เอเชีย ร่วมผ่านวิกฤตโควิด-19 ผ่านหลักสูตร “2nd Job 2nd Chance” เปิดโอกาสเรียนรู้อสังหาฯ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนต่อไป
- พ.ย. ๑๒๖๙ อนันดาฯ เปิดตัวแนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC”
- พ.ย. ๒๕๖๗ อนันดาฯ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ เปิดตัวแนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC” พร้อมส่งมอบ 5 โครงการพร้อมอยู่ ครบทุกเซ็กเมนต์