การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นรากฐานสำคัญของการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของเด็กทารกและเด็กเล็ก รวมทั้งยังเป็นการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับเด็กทารกอีกด้วย แต่จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้มีอุปสรรคมากมายที่ทำให้แม่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จ เช่นขาดประสบการณ์ ไม่มีที่ปรึกษา หรือมีสิทธิในการลาคลอดน้อยฯลฯ ส่งผลทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ลดลง โดยข้อมูลจากกรมอนามัยในปี พ.ศ.2550 พบว่ามีเด็กไทยที่กินนมแม่อย่างเพียง 6 เดือนเพียงร้อยละ 15 เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดองค์การยูนิเซฟและองค์การอนามัยโลกไว้ร้อยละ 30
การที่จะทำให้เด็กไทยได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน ตามคำแนะนำขององค์การยูนิเซฟและองค์การอนามัยโลก จะต้องมีการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบด้วยการพัฒนาให้มี “คลินิกนมแม่” ขึ้นในสถานบริการด้านสาธารณสุข แต่การดำเนินงานคลินิกนมแม่นั้นจำเป็นที่จะต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ มีทักษะในการแก้ไขและช่วยเหลือแม่ในปัญหานมแม่ต่างๆ
เนื่องในวโรกาสวันแม่แห่งชาติ12 สิงหาคม และ สัปดาห์นมแม่โลกวันที่ 1-7 สิงหาคม พ.ศ.2553 ซึ่งในปีนี้มีคำขวัญว่า “เติมพลังรักสู่ลูกด้วยนมแม่...แค่ 10 ขั้น” ที่เรียกร้องให้โรงพยาบาลทั่วโลกหันกลับมาทบทวนการปฏิบัติตามบันได 10 ขั้นแห่งความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตามแนวทางของโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่-ลูก และโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว เพื่อช่วยให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ประสบความสำเร็จ
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี จึงร่วมกับโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องคลินิกนมแม่เป็นอย่างดีคือ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลตากสิน และมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการอบรมทักษะการแก้ไขปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับพยาบาลเพื่อปฏิบัติงานในคลินิกนมแม่ในเขตกรุงเทพมหานคร” โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยจะจัดให้มีการอบรมทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติรวม 10 วัน ให้กับพยาบาลวิชาชีพที่สนใจจำนวน 44 คน ในระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน พ.ศ.2553
พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีเปิดเผยถึงการจัดการ อบรมในครั้งนี้ว่า “สัปดาห์นมแม่โลกในปีนี้มีหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อช่วยให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประสบความสำเร็จ คือสามารถเลี้ยงด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน ประกอบกับทางสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีได้ให้ความสำคัญในเรื่องของนมแม่โดยได้มีการจัดตั้งคลินิกนมแม่ และศูนย์ให้การปรึกษาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (Call Center) มาตั้งแต่ ปี 2549 และมีการฝึกอบรมบุคคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง มีประสบการณ์และความชำนาญในเรื่องของการดูแลเด็กป่วยให้ยังคงได้กินนมแม่ได้ มีประสบการณ์กับปัญหาที่เกิดขึ้นกับแม่หรือเด็กทีป่วยมากกว่า ดังนั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนสัปดาห์นมแม่โลกและแนวทางปฏิบัติบันได 10 ขั้นแห่งความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จึงร่วมกับโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลตากสิน ซึ่งมีจุดเด่นที่เป็นโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่-ลูก มีการจัดคลินิกนมแม่และมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี จัดการอบรมทักษะการแก้ไขปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับพยาบาลเพื่อป
ฏิบัติงานในคลินิกนมแม่ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพราะการคลอดและการดูแลแม่หลังคลอดพยาบาลจะมีบทบาทสูงมาก ถ้าพยาบาลมีทักษะที่ถูกต้องก็จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับเด็ก” แพทย์หญิงศิราภรณ์ระบุ
นายแพทย์สุรเดช วลีอิทธิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขต 13 กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะเสริมสร้างให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีสุขภาวะ
“สปสช. ได้เล็งเห็นว่าทาง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี มีนโยบายส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาอย่างยาวนาน และได้มีการจัดตั้งคลินิกนมแม่ เพื่อให้คำปรึกษาปัญหาต่างๆ กับแม่ทั้งก่อนและหลังคลอดอย่างทันท่วงที ทำให้แม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นและสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จนประสบความสำเร็จ ทาง สปสช.จึงให้ทุนสนับสนุนโครงการให้คำปรึกษาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทางโทรศัพท์(Call Center) มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 จนถึงปัจจุบัน และได้ให้ทุนสนับสนุนต่อเนื่องไปถึงโครงการจัดการอบรมภาคทฤษฏีและปฏิบัติหลักสูตร 10 วันตามโครงการอบรมทักษะการแก้ไขปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับพยาบาลเพื่อปฏิบัติงานในคลินิกนมแม่ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีเป้าหมายเพื่อให้โรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานครสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งกลับไปอยู่ที่บ้าน เพื่อทำให้เด็กไทยเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง” นายแพทย์สุรเดชกล่าว
แพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า สัปดาห์นมแม่โลก ถูกกำหนดขึ้นโดย องค์กรเครือข่ายพันธมิตรนมแม่โลก (WABA) ซึ่งเป็นเครือข่ายระดับโลกที่มีจุดมุ่งหมายในการปกป้อง ส่งเสริม และสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยเป็นภาคีเครือข่ายที่มีส่วนร่วมในการรณรงค์สัปดาห์นมแม่โลกมาตลอด โดยในปีนี้มีคำขวัญว่า “เติมพลังรักสู่ลูกด้วยนมแม่...แค่ 10 ขั้น” (Breastfeeding — Just 10 Steps the Baby-Friendly Way)
“คำขวัญในปีนี้กำหนดขึ้นมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปีของปฏิญญา Innocenti Declaration ที่เรียกร้องให้มีการดำเนินงานตามบันได 10 ขั้นในโรงพยาบาล เพราะในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีโรงพยาบาลมากกว่า 2 หมื่นแห่งหรือประมาณร้อยละ 28 จากทั่วโลกได้ปฏิบัติตามบันได 10 ขั้นอย่างครบถ้วน แต่ในระยะต่อมาอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั่วโลกไม่เพิ่มขึ้น จากการฝึกอบรมที่ไม่เหมาะสมเพียงพอและหย่อนการปฏิบัติตามบันได 10 ขั้นแห่งความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในโรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองแล้ว เป็นผลให้อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเรื่อยๆ ในหลายพื้นที่ จึงถึงเวลาที่ต้องทบทวนแนวคิดนี้ ซึ่งการจัดการฝึกอบรมตามโครงการอบรมทักษะการแก้ไขปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับพยาบาลเพื่อปฏิบัติงานในคลินิกนมแม่ในเขตกรุงเทพมหานคร จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการสนับสนุนการปฏิบัติตามบันได 10 ซึ่งจะช่วยให้แม่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ตามตั้งใจ” แพทย์หญิงศิริพรระบุ
โครงการอบรมทักษะการแก้ไขปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับพยาบาลเพื่อปฏิบัติงานในคลินิกนมแม่ในเขตกรุงเทพมหานคร จึงเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นและสร้างให้เกิดความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างถูกต้องให้กับผู้ปฏิบัติงานในสถานพยาบาล ซึ่งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ เหล่านี้จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดปฏิบัติตามบันได 10 ขั้นตามแนวทางขององค์กรเครือข่ายพันธมิตรนมแม่โลกส่งผลให้การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-1819-8197 เหมวดี พลรัฐ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี